คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าโลกใบนี้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pannawit Jel Chottechathammanee ได้ร้องขอความเป็นธรรมกับชีวติตัวเองว่า “ขอความช่วยเหลือคนละ 1 แชร์ครับ ตอนนี้ผมถูกทำร้าย! จากมิจฉาชีพคนหนึ่งซึ่งต้องการทำลายชีวิตผม ทั้งๆที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์รูปแบบหนึ่ง โดยใช้วิธีกุเรื่องขึ้นมาและสร้างความเสียหาย หากเรายอมให้เงิน ทางนั้นก็จะจบ
ซึ่งตามหลักแล้ว เราจะให้เงินเพื่ออะไร ในเมื่อเราไม่เคยรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ เป็นเพียงเรื่องแต่งที่สร้างความเสียหายให้กับเรา เรื่องมันมีอยู่ว่า… วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ammii Mei Lng ทักข้อความส่วนตัวมาหาผม บอกว่าคลอดลูกและจะมาขอเงินจากผม ซึ่งตอนนั้นผมงงมาก เลยถามว่า ส่งผิดหรือป่าว? เพราะผมก็มีแฟนอยู่แล้ว หลังจากนั้นผมก็บล็อคเฟซบุ๊กไป
ผ่านไปประมาณ 3 เดือน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ผมจัดงานวันเกิดและทำบุญโรงงาน มีคนมาร่วมงานพอสมควร ซึ่งคนที่มาร่วมงานหลายท่านได้แจ้งผมว่าให้ผมไปรับผิดชอบลูกที่เกิดมาด้วย ผมก็แบบ ห้ะ! WTF!! เราไม่เคยไปมีอะไรกับใครนะ เรามีแฟนอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้แน่นอน
เราก็เลยถามเค้ากลับว่าเห็นมาจากที่ไหนยังไง จึงกลับไปไล่ดูใน Official Lineเชดเข้!!! คอมเม้นต์หยาบคายต่ำตมเยอะมาก! เราจึงไล่ลบและนำหลักฐานทั้งหมด ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ
เวลาผ่านไปเราคิดว่านางจะหยุด เพราะเราก็ไล่ลบคอมเม้นต์ตอนเข้าส้วมทุกวันเหมือนงานอดิเรก แต่นางไม่หยุดครับ และเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมากไปกว่านั้น หลายๆ คนที่ไม่รู้จักผม ถูกชักจูงมาด่าผมกันเป็นพรวน ทั้งในกลุ่มแม่ๆ แม่ลูกอ่อน หรือเพื่อนๆนาง เป็นคนที่ไม่รู้ความจริงและมารุมด่าผม จนกระทั่งผมหมดความอดทน จึงไปแจ้งความเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
หลักจากเราไปหาตำรวจได้พบว่า “นางสาว ฐานิต เปี่ยมปิ่นเศษ” ปัจจุบันอายุ 25 ปี มีอาชีพ… แล้ว…. มันเกี่ยวอะไรกับผมฟระ!! จึงให้ตำรวจเรียกตัวมาให้ปากคำ แต่นางมาถึงกลายเป็นให้ปากดี เบ้ปากมองบนไปอีก (อารมณ์ตอนนั้นคือถ้าไม่ใช่ผู้หญิง ผมเสียค่าปรับทะเลาะวิวาทแน่นอน)
หลังจากที่ถูกหมายเรียกจนครบ 3 ครั้ง (คิดว่าน่าจะหาเรื่องยืดอายุความ) จนขอตรวจ DNA ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ทหลังจากนั้น 1 เดือน ผลออก ก็เป็นไปตามความจริงอยู่แล้ว คือไม่มีอะไรตรงกันเลยทั้งสิ้น ถ้าตรงก็…แล้วครับ เพราะเราไม่เคยรู้จักกันเลย และผมมีแฟนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวสถานที่ต่ำตมแบบนั้น
หลังจาก DNA ออก ตำรวจก็ให้นางมาขอโทษ และหยุดการกระทำทรามๆแบบนี้ นางหยุดครับ หยุดได้ 1 วัน ก็อาละวาดต่อเหมือนคนขาดยา และอ้างว่าผมถอนแจ้งความ (แต่งเรื่องเก่งจริงๆ แนะนำให้แต่งนิยายขายครับ)
ขอบอกตรงนี้เลยครับว่า ผมไม่ได้ติดใจอะไรนะ และไม่ได้คิดว่ามันคือปัญหาใหญ่ แต่อยากให้คนที่เข้าใจในตัวผมผิดๆ ฟังความแต่ข้างเดียวมา ได้เข้าใจผม และหยุดด่าผมได้แล้ว เพราะทั้งหมดมันไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่นิดเดียว
และผมก็ไม่อยากจะไปตอบโต้อะไรเยอะ มันเสียเวลาครับ
ฝากถึงกลุ่มแม่ๆที่นางไปโพสต์ และกลุ่มเพื่อนของนาง หยุดด่าผมได้แล้วครับและฝากถึง นางสาว ฐานิต เปี่ยมปิ่นเศษ เพราะผมจะดำเนินคดีตามกฎหมายแพ่งและอาญาจนถึงที่สุดครับ” (คลิกเพื่อชมภาพ)