สุดยื้อ เด็กชายวัย 4 ขวบ ดึงพวงมาลัย ทำเก๋งชนเสาไฟฟ้า จนกระเด็นออกนอกรถ ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว

guest profile image guest

กรณีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กฉ 950 อ่างทอง เสียหลักขึ้นเกาะกลางไปชนกับเสาไฟฟ้าส่องทาง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในจำนวนหลายราย เหตุเกิดบริเวณถนนสายอยุธยา อ่างทอง ขาเข้าเมือง มีบาดเจ็บเป็นเด็กชายวัย 4 ขวบ อาการสาหัสเรียกไม่รู้สึกตัว ก่อนนำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง และมีผู้บาดเจ็บเป็นชายและหญิงอีก 2 ราย ได้แก่ นายปริวัตร์ อนุสุวรรณ์ อายุ 26 ปี คนขับ มีบาดแผลแตกที่ศีรษะ รู้สึกตัวดี และ นางสาว ฐิตาภรณ์ อนุสิ อายุ 35 ปี คนที่นั่งมาด้วย มีอาการแน่นหน้าอก

จากการสอบถาม นายปริวัตร์ ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้มีปากเสียงกับภรรยา หลังจากเดินทางไปทำบุญและกำลังจะไปส่งที่บ้าน ระหว่างที่ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนเองได้ขับรถโดยใช้มือเพียงข้างเดียว อยู่ๆ ลูกชายของภรรยา ซึ่งเป็นเด็กอายุยังน้อย ประกอบกับตนเองไม่ทันระวัง ได้เอื้อมมือมาดึงพวงมาลัยรถทำให้รถยนต์เกิดเสียหลักจนส่ายไปมา ก่อนที่จะเสยเข้ากับเกาะกลางถนนไปชนกับเสาไฟฟ้าส่องทางอย่างแรง จนทำให้รถยนต์ที่ตนเองขับและลูกชายวัย 4 ปี กระเด็นตกลงไปที่พื้นถนนจนอาการสาหัส

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 22 00 น ของวันที่ 17 กพ 63 หลังจากที่เข้ารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลอ่างทอง เด็กชาย วรายุส์ บุญมาก หรือน้องโรม อายุ 4 ปี ได้เสียชีวิตลงด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาทางญาติได้รับศพน้องโรม มาตั้งทำพิธีบำเพ็ญกุศล ที่วัดเกตุ หมู่ที่ 5 ตำบลสายทอง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง และมีพิธีรดน้ำศพไปเมื่อเวลา 16 00 น ของวันนี้ และจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลก่อนที่จะฌาปนกิจในวันพฤหัสบดีที่ 20 กพ 63 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด

ด้าน นายโอภาศ อนุสิ อายุ 30 ปี น้องชายของผู้ได้รับบาดเจ็บและเป็นน้าของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนเองได้รับโทรศัพท์ว่าพี่สาวและหลานชายประสบอุบัติเหตุบริเวณหน้าโรงงานดังกล่าว จึงได้รีบไปดูก็ต้องพบกับภาพที่เศร้าสลด เมื่อเห็นหลานชายของตัวเองศีรษะและลำตัวพาดอยู่ที่ประตูรถด้านคนนั่ง ส่วนอีกครึ่งตัวอยู่ในรถอาการสาหัสมีเลือดไหลออกมามาก โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอ่างทอง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนเองและครอบครัวรู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่น่าสลดไปมากกว่านั้น น้องโรม หลานชายของตนเองยังป่วยเป็นโรคผนังกั้นหัวใจรั่วมาตั้งแต่เกิด ต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ทุกๆ 3 เดือน

น้องชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวด้วยว่า ส่วนคนขับขี่ตนเองและครอบครัวไม่เคยรู้จักและเห็นหน้ามาก่อน แต่ทราบว่าคบหาดูใจอยู่กับพี่สาวเพียงไม่นาน ซึ่งพี่สาวเคยเล่าให้ฟังว่ามีปากเสียงทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง และเป็นคนนิสัยใจร้อนโมโหร้าย โดยอาการของพี่สาวในตอนนี้ล่าสุดทราบว่าซี่โครงหักทิ่มปอด และมีเลือดออกในสมอง ต้องเข้าห้องผ่าตัดและเข้าพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยหนัก หลังจากทราบข่าวลูกชายเสียชีวิตในช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยตนเองและครอบครัวอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนอย่างละเอียดถึงสาเหตุที่แน่ชัดจากการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.siamnews.com
ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

4 ปีที่ผ่านมา
4 ปีที่ผ่านมา