เช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ท้องพระโรงกองบัญชาการกองทัพเรือ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ผบ.ทบ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนกำลังเซ็นคำสั่งปรับย้ายนายทหารระดับพันเอกและเซ็นย้ายจริง ไม่ได้พูดเล่น เพราะเซ็นต่อหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ใครทำอะไรไว้ต้องได้รับผล และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีความศักดิ์สิทธิ โดยเป็นเรื่องเกี่ยวข้องในหลายส่วน ที่กำลังพลร้องเรียนมา โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 หลังเกิดเหตุรุนแรง
เมื่อถามว่าในส่วน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ถูกปรับย้ายด้วยหรือไม่ พล.อ
อภิรัชต์ กล่าวว่าต้องให้ความเป็นธรรม เป็นกรณีไป ไม่ใช่เลือดเข้าตาก็จะสั่งย้ายหมด ซึ่งจนท.ทุกคนก็มีความตื่นตัวในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่าการตั้งศูนย์ร้องเรียนสายตรงมายัง ผบ.ทบ.จะดำเนินการอย่างไร พล.อ
อภิรัชต์ กล่าวว่าเราให้เอาท์ซอร์ซ ดำเนินการเป็นเอกชนทั้งหมด เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล ส่วนการพิจารณาว่า ข้อร้องเรียนไหนเป็นเรื่องจริง หรือใส่ร้าย ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ฟังดูก็รู้แล้วว่าอะไรเท็จอะไรจริง
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ตนจะให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงรายละเอียด ส่วนการลงนามบันทึกข้อตกลง เอ็มโอยู ในโครงการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ร่วมกับกรมธนารักษ์ กว่า 40 รายการนั้น ทุกอย่างดำเนินการตามลำดับ ไม่ได้ขีดเส้นหรือกำหนดกรอบเวลาแต่อย่างใด
เมื่อถามว่านักกฎหมายแนะนำเครือญาตผู้เสียหาย ฟ้องร้องกองทัพ และผบ.ทบ.
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การก่อเหตุ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่คำสั่งกองทัพ หากทหารมีเรื่องกับทหาร ต้องขึ้นศาลทหารแต่ถ้าหาก ทหารมีเรื่องกับพลเรือนต้องขึ้นศาลพลเรือนต้องแยกให้ออก