ท่าของการร่วมเพศ |
ศิลปะในการร่วมเพศจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในกายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยาของร่างกาย และอุปนิสัยใจคอ ตลอดจนเจตคติของบุคคลต่อการปฏิบัติทางเพศ โดยเฉพาะการเลือกท่าของการร่วมเพศให้เหมาะสมและสอดคล้องกับบรรยากาศหรือสถานการณ์ในขณะนั้น จึงจะทำให้เพศสัมพันธ์ของคนทั้งคู่เป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข ท่าต่างๆ ที่ใช้ในการร่วมเพศของคนเรามีมากมายเป็นร้อยๆ ท่า แต่ท่าที่เป็นพื้นฐานหรือที่ใช้กันบ่อยๆ มีอยู่ไม่กี่ท่าได้แก่ ท่าชายอยู่บน ท่าหญิงอยู่บน ท่าตะแคง ท่าเข้าข้างหลัง ท่านั่ง และท่ายืนแต่ในทางปฏิบัติกันจริงๆ การร่วมเพศครั้งหนึ่งๆ คู่ร่วมเพศอาจใช้หลายๆ ท่ารวมกัน สุดแต่ความเหมาะสมหรือความพอใจในขณะนั้น เช่น เมื่อสามีเริ่มสอดองคชาตเข้าไปในช่องคลอดอาจใช้ท่าตะแคงแล้วก็เปลี่ยนแปลงท่าไปเรื่อยๆ เป็นท่าเข้าข้างหลัง หรือท่าผู้หญิงอยู่บน และจบลงด้วยท่าผู้ชายอยู่บน เป็นต้น ต่อไปนี้จะกล่าวถึงวิธีปฏิบัติ ข้อดีและข้อเสียของแต่ละทำ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม |
ท่าชายอยู่บนนับเป็นท่าพื้นฐาน |
ท่าชายอยู่บน เป็นท่าที่ใช้กันมากที่สุดขาของผู้ชายอาจอยู่ระหว่างหรือข้างนอกขาของผู้หญิงก็ได้ และชายอาจนอนทับ หรือพยุงตัวเองด้วยศอกและเข่า ก้นของผู้หญิงอาจถูกหนุนให้สูงขึ้นบนหมอน และชายเป็นผู้ควบคุมการเคลื่อนไหว โดยที่ฝ่ายหญิงอาจขยับสะโพกตามให้เข้าจังหวะกับฝ่ายชายพร้อมกับขมิบช่องคลอดสลับกับคลายเป็นระยะ หรือเกร็งกล้ามเนื้อส่วนอื่นของร่างกายไปด้วยในขณะเดียวกันได้ ถ้าขาของชายอยู่นอกขาของหญิงองคชาตจะเสียดสีกับคลิตอริสมากขึ้น และแคมเล็กจะรัดองคชาต ทำให้เกิดความรู้สึกที่องคชาตอย่างมาก จนอาจถึงจุดสุดยอดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นท่านี้จึงไม่ดีสำหรับผู้ชายที่ไม่สามารถควบคุมการหลั่งน้ำกาม นอกจากนั้นยังเป็นท่าที่ฝ่ายชายค่อนข้างเหนื่อย เพราะต้องออกแรงมาก จึงอาจต้องเปลี่ยนเป็นท่าอื่นสักพัก หรือหยุดชั่วคราวเพื่อให้ถึงจุดสุดยอดช้าลง คนบางคนพบว่าท่านี้มักเป็นท่าที่จบมากกว่าจะเป็นท่าเริ่มต้นของการร่วมเพศกรณีที่ฝ่ายชายอ้วนหรือฝ่ายหญิงกำลังตั้งครรภ์พบว่าไม่เหมาะ และกรณีที่องคชาตของฝ่ายชายไม่แข็งตัวเต็มที่หรือช่องคลอดหลวมเนื่องจากการคลอดบุตรหลายๆ คน ก็จะร่วมเพศได้ลำบากหรือไม่ให้ความสุขเต็มที่ ข้อดีของท่านี้ คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงมีโอกาสกอดจูบและสัมผัสกันและกัน การยกก้นของหญิงขึ้นโดยใช้หมอนรอง หรือยกขาของหญิงพาดบนไหล่ของชายจะทำให้การเสียดสีขององคชาตกับคลิตอริสน้อยลง แต่เป็นโอกาสให้สอดใส่องคชาตเข้าไปในช่องคลอดได้ลึก และช่วยให้องคชาตเสียดสีกับช่องคลอดดีขึ้นในกรณีที่ช่องคลอดหลวม แต่ข้อเสียของท่านี้คือชายจะต้องพยุงน้ำหนักของตัวเองด้วยขา แขน และมือ ดังนั้นเขาจะไม่สามารถใช้มือลูบไล้ฝ่ายหญิง หรือหยุดพักได้นานเพื่อชะลอความรุนแรงของอารมณ์เพศ |
เธอคือผู้คุมเกมเมื่อใช้ท่าผู้หญิงอยู่บน |
เป็นท่าที่นิยมน้อยกว่าท่าแรก เพราะคนทั่วไปมีความรู้สึกว่าผู้ชายควรเป็นฝ่ายกระทำหรืออยู่เหนือฝ่ายหญิง ท่านี้อาจเริ่มต้นด้วยชายอยู่บน แต่เมื่อองคชาตเข้าไปในช่องคลอดแล้ว ฝ่ายชายจึงพลิกตัวฝ่ายหญิงให้ขึ้นมาอยู่ข้างบน หรือให้ฝ่ายชายนอนหงาย หญิงคุกเข่าคร่อมตัวฝ่ายชาย โดยขาของหญิงอาจอยู่ระหว่างขาของชายหรือข้างนอกก็ได้ แล้วใช้มือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจับองคชาตค่อยๆ สอดเข้าไปในช่องคลอด พร้อมๆ กับหญิงค่อยๆ ย่อตัวลง ทิ้งน้ำหนักไว้บนหัวหน่าวของผู้ชาย หรือนั่งบนเขาของตัวเองสลับกันไปก็ได้ ท่านี้เป็นท่าที่หญิงสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวและแรงกดของคลิตอริส และถ้าเอนตัวมาข้างหน้ามากๆ จะทับผู้ชาย ทำให้การเคลื่อนไหวขององคชาตลดน้อยลง และผู้ชายมีความรู้สึกช้าลง ถ้าฝ่ายชายยกก้นขึ้นโดยใช้ข้อศอกฝันหรืองอเข่าขึ้นเพื่อพยุงหลัง จะทำให้องคชาตยิ่งสอดเข้าไปได้ลึกในช่องคลอด แต่ฝ่ายหญิงก็สามารถควบคุมความลึกได้โดยไม่ย่อเข่าลงมามาก การเคลื่อนไหวไม่ว่าโดยวิธีใดในท่านี้จะกระตุ้นความรู้สึกของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ถ้าฝ่ายหญิงใกล้จะถึงจุดสุดยอดก็อาจยกสะโพกขึ้นเพื่อให้ชายเคลื่อนไหวได้บ้าง ความรู้สึกของทั้งคู่ก็จะมาถึงระดับเดียวกัน ข้อดีของท่านี้คือผู้ชายมีโอกาสลูบไล้เต้านม สะโพก และคลิตอริสของหญิงได้ รวมทั้งอาจจูบหรือดูดหัวนมถ้าหญิงเอนตัวมาข้างหน้ามากๆ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นท่าที่กระตุ้นความรู้สึกของหญิงมากที่สุด จึงเป็นท่าที่ใช้รักษาปัญหาการไม่บรรลุความสุขสุดยอดทางกามารมณ์ของผู้หญิง แต่ข้อเสียคือฝ่ายหญิงต้องออกกำลังมาก และสำหรับคนมีลูกยาก ท่านี้จะยิ่งลดโอกาสของการตั้งครรภ์ จึงควรเลือกท่าผู้ชายอยู่บนจะเหมาะกว่า |
ท่าตะแคงมักใช้เพื่อสลับฉาก |
ท่านี้เป็นท่าที่ฝ่ายชายนอกหันหน้าเข้าหาฝ่ายหญิง ขาของผู้ชายจะอยู่ระหว่างขาของผู้หญิงหรือวางสลับกัน ข้อดีของท่านี้คือ หญิงชายสามารถกอดจูบและใช้มือลูบคลำกันได้ ไม่ต้องออกกำลังมากในการพยุงน้ำหนักซึ่งกันและกัน และสามารถร่วมเพศได้ยาวนาน จึงเหมาะสำหรับทำสลับกับท่าอื่นซึ่งต้องออกแรงมาก หรือเพื่อรอให้อารมณ์เพศของฝ่ายหญิงขึ้นมาทันฝ่ายชาย และในระหว่างตั้งครรภ์ แต่ข้อเสียของท่านี้คือ การเคลื่อนไหวและการเสียดสีขององคชาตกับคลิตอริสเป็นไปไม่ได้ดี ทั้งยังไม่สามารถสอดใส่องคชาตเข้าไปในช่องคลอดได้ลึก กรณีที่ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ การใช้ท่าตะแคงโดยฝ่ายหญิงหันหลังให้ฝ่ายชายจะช่วยให้ฝ่ายหญิงไม่รู้สึกอึดอัด และการที่อวัยวะเพศชายเข้าไปในช่องคลอดไม่ได้ลึก ก็จะไม่กระทบกระเทือนต่อทารกในครรภ์ด้วย |
ท่าอื่นๆ เป็นทางเลือกเพื่อลดความจำเจ |
ท่าเข้าข้างหลังปลอดภัยสำหรับกระเพาะปัสสาวะของหญิง ท่านี้หญิงอาจนอนตะแคงงอตัวชายนอนปะกบด้านหลังและงอตัวตามฝ่ายหญิง หญิงอาจคุกเข่า หน้าอกชิดพื้น และกระดกก้น หรือคุกเข่าและหน้าอกยกขึ้น โดยการใช้ศอกยันกับพื้น ฝ่ายชายคุกเข่าหรือนอนทับอยู่บนหลังของฝ่ายหญิง หรือผู้ชายนอนหงาย ผู้หญิงนั่งทับผู้ชายโดยหันหน้าไปทางปลายเท้าของผู้ชาย หรือผู้ชายนั่งบนเก้าอี้ ผู้หญิงนั่งตักโดยหันหลังให้หน้าอกของฝ่ายชาย ฯลฯ สำหรับท่านี้ สำหรับท่านี้การสอดใส่องคชาตเข้าช่องคลอดจะผ่านทางใต้ก้นของหญิง และมือของฝ่ายชายจะมีอิสระที่จะกอดหรือลูบคลำส่วนต่างๆ ของฝ่ายหญิง รวมทั้งคลิตอริส แต่องคชาตกับคลิตอริสจะไม่สัมผัสกัน และการสอดใส่องคชาตทำไม่ค่อยได้ดี ยกเว้นในท่าหญิงนอนคว่ำก้นกระดก ชายนั่งคุกเข่าอยู่ข้างหลัง แต่ท่านี้อาจมีลมเข้าทางช่องคลอด ทำให้เกิดเสียงขณะฝ่ายชายขยับองคชาตเข้าๆ ออกๆ โดยเฉพาะถ้าฝ่ายหญิงมีปากช่องคลอดกว้างจากการคลอดบุตร และกรณีที่ทั้งคู่มีรูปร่างอ้วน จะใช้ท่านี้ลำบาก ท่านั่งมีไว้ไม่ให้น่าเบื่อ ท่านั่งง่ายๆ คือ ชายนั่งบนเตียงที่ขอบเตียงหรือบนเก้าอี้ ส่วนหญิงนั่งบนขาชาย โดยขาของหญิงอยู่นอกสะโพกของชายหรือเกี่ยวกันไว้ข้างหลังผู้ชายและหันหน้าเขาหากัน ฝ่ายชายอาจรั้งสะโพกหรือขาของหญิงให้ชิดกับตัวเองทำให้องคชาตเข้าไปในช่องคลอดได้ลึกขึ้นท่านี้จะกระตุ้นที่คลิตอริสมาก และองคชาตเข้าไปในช่องคลอดได้ลึก ผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นไปได้ดีพอควร แต่ต้องออกแรงมากสักหน่อยบางครั้งท่านี้อาจดัดแปลงเป็นผู้หญิงนอกหงายและชายนั่งอยู่ระหว่างขาของหญิงหรือชายนอกหงายและหญิงนั่งทับขาของผู้ชายโดยหันหน้าเข้าหากันก็ได ท่ายืนเหมาะสำหรับผู้ที่แข็งแรงหรือนักกีฬา ท่ายืนเป็นท่าที่ค่อนข้างโลดโผน จึงเหมาะสำหรับคู่ร่วมเพศที่แข็งแรงหรือเป็นนักกีฬาเท่านั้น คู่สมรสที่เลือกท่านี้มักนิยมความแปลกใหม่หรือการผจญภัย แต่ควรกระทำอย่างระมัดระวัง มิฉะนั้นอาจเกิดอาการปวดหลังหรือกล้ามเนื้อขาอักเสบได้ จะเลือกท่าไหนเป็นท่าพิเศษสำหรับคุณเองหรือคู่ของคุณ ศึกษาข้อดีข้อเสียให้รอบคอบก่อนจะได้มีความสุขสมปรารถนา |