การนินทาว่าร้าย ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ดีอย่างมาก และเป็นการแสดงออกถึงความไร้จรรยามารยาท ผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอและมีจิตใจที่ไร้อีหม่าน จะไม่สามารถหลีกเหลี่ยงจากการกระทำอันนี้ได้ และมันยังเป็นบาปใหญ่ที่มุสลิมจะต้องละทิ้ง การนินทาเปรียบเสมือนการค้าที่ประสบกับการขาดทุน โดยที่ผลของการนินทาจะมากัดกร่อนความดีของเขาให้หมดไป ความผิดบาปจะเข้ามาแทนที่ความดี
การนินทาว่าร้ายเป็นบ่อนทำลายความสามัคคีของคนในสังคมและยังเป็นการละเมิด สิทธิส่วนบุคคล เพราะคนแต่ละคนมีความรักและห่วงแหนในเกียรติยศของตนเอง การนินทาว่าร้ายถือเป็นการทำร้ายพี่น้องร่วมสังคม ผล ของการนินทาไม่ได้เป็นการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ แต่จะนำมาซึ่งความแตกแยกในสังคม และสร้างความเกลียดชัง ความเป็นศัตรูระหว่างกัน
ผู้ที่ชอบนินทาคนอื่นมักจะเป็นคนใจแคบขาดการรำลึกถึงอัลลอฮ์ เพราะฉะนั้นการนินทาจึงถือเป็นบาปที่รุนแรงมาก เราอาจจะคิดว่าการนินทาไม่น่าจะมีบาปและโทษอย่างรุนแรง เพราะแค่เราพูดด้วยคำพูดง่ายๆไม่ได้ลงทุนกระทำสิ่งใด
พระองค์อัลลอฮ์ ได้กล่าวถึงสถาพของผู้ที่ชอบนินทาผู้อื่น ไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน ความว่า
قال تعالى أيحب أحد كم أن يأ كل لحم أخيه ميتا فكرهتموه
“ คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเจ้าชอบที่จะกินเนื้อของพี่น้องเขาที่ตายไปแล้ว ทั้งๆที่พวกเจ้ารังเกียจมัน ”
จากอายะนี้อัลลอฮ์ ได้กล่าวถึงสภาพของผู้ที่นินทา เปรียบเหมือนกับผู้ที่กัดกินซากศพของพี่น้องของเขาซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยงอย่างยิ่ง
ความหมายของการนินทา
ท่านอิหม่าม อันนะวาวีย์ ได้ให้ความหมายของการนินทาไว้ว่า การนินทา คือ การที่คน คนหนึ่งได้กล่าวถึงพี่น้องของเขา ในสิ่งที่เขาไม่ชอบ ไม่ว่าในเรื่องของร่างกาย นิสัยใจคอ ทรัพย์สินสมบัติ ลูกๆ และภรรยาของเขา หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะทำให้เขาไม่พอใจด้วยกับคำพูด หรือ แสดงด้วยการกระทำ เช่น การชี้
ตัวอย่างของการนินทา
ตัวอย่างที่หนึ่ง เช่น เราได้ดูถูกพี่น้องของเราว่าเตี้ยบ้าง สูงบ้าง ตัวดำบ้าง หรืออื่นจากนี้ ซึ่งเป็นการดูถูกเหยียดหยาม
มีรายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์
“โดยที่ฉันได้กล่าวแก่ท่านนะบีว่า เพียงพอแล้วสำหรับท่าน ซอฟียะ อย่างนั้นๆ”
ผู้รายงานได้กล่าวว่า หมายถึง ตัวเตี้ย และ ท่านนะบีได้กล่าวว่า
“แน่นอนเธอได้พูดคำพูดหนึ่งหากเอามันไปผสมกับน้ำทะเลแล้ว จะทำให้น้ำทะเลเสีย ...” (บันทึกโดย อะหมัด อิบนุอะบิดดุนยา)
สาเหตุที่นำไปสู่การนินทาว่าร้าย
1. ความเกรงใจเมื่ออยู่รวมกับเพื่อนที่ไม่ดี เมื่อพวกเขาได้ทำการนินทาว่าร้ายผู้อื่น ซึ่งบางคนเห็นว่าการที่จะห้ามเพื่อนว่าอย่าไปพูดนินทาว่าร้ายผู้อื่น หรือคิดว่าถ้าเขาได้เตือนเพื่อนๆแล้ว จะทำให้เพื่อนไม่คบค้าสมาคมด้วย และ สาเหตุที่กลัวว่าจะเสียมารยาทในการที่จะตักเตือนเพื่อน เลยทำให้เขาเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมอยู่ในการนินทาไปโดยปริยาย ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นแก่เราจะต้องเลือกคบเพื่อนที่ดี เพราะเพื่อนที่ไม่ดีจะนำเราไปสู่สิ่งที่ไม่ดี เช่นกัน เหมือนคำพูดของนักกวี ที่ว่า “เมื่อท่านไม่พบเพื่อนที่ไม่ดี การที่ท่านอยู่เพียงลำพังย่อมดีกว่า”
2. การที่มีบุคคลคนหนึ่งเป็นที่นับหน้าถือตาของผู้คน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความดีหรือเรื่องของความรู้ จึงทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมา เลยพยายามที่จะหาสิ่งที่ไม่ดีของบุคคลผู้นั้น แล้วปล่อยข่าวไปในทางที่เสียหาย การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นสิ่งต้องห้ามเพราะมันคือ บ่อเกิดของความอิจฉาริษยา อีกทั้งยังรวมอยู่ในประเภทของการนินทาว่าร้ายด้วย และเป็นการทำลายความสามัคคีของคนในสังคมอีกด้วย
3. บุคคล ที่ชอบดูถูกผู้อื่น จะเป็นผู้ที่มีความหยิ่งยโส มองว่าตัวเองเป็นผู้ที่ไม่มีความบกพร่อง คิดว่าตัวเองเป็นผู้ที่ดีเลิศเลอเหนือผู้อื่น และเห็นผู้อื่นมีความบกพร่องไม่ว่าในเรื่องของรูปกาย และมารยาท เมื่อคนเรามีความคิดเช่นนั้นก็เป็นการง่ายที่เขาจะพูดถึงผู้อื่นในทางที่ เสียหาย โดยที่เขาลืมพระดำรัสของอัลลอฮ์ ที่ว่า
لا يسخر قوم من قوم عسى أن يكونوا خير منهم ولا نساء من نساء عسى أن يكن خيرا منهن
“กลุ่มชนหนึ่งอย่าได้ดูถูกกลุ่มชนหนึ่ง หวังว่าพวกเขา (ผู้ที่ถูกดูถูก) จะดีกว่าพวกเขา(ผู้ที่ดูถูก)
และผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอย่าได้ดูถูกผู้หญิงอีกกลุ่มหนึ่ง หวังว่าผู้หญิงที่ถูกดูถูกจะดีกว่าผู้ที่ดูถูก”
4. การที่ คนหนึ่งมีความโกรธ บุคคลหนึ่ง หรือ มีความไม่สบายใจกับคน คนนั้น เมื่อมีการกล่าวถึงบุคคลนั้น เขาจะนำสิ่งที่มีอยู่ในใจระบายออกมาเป็นคำพูดส่อไปในทางที่ไม่ดีเกี่ยวกับ บุคคลผู้นั้น สาเหตุที่กล่าวมานี้ เนื่องจากบุคคลที่นินทาผู้อื่นนั้น ขาดการปลูกฝังจากหลักคำสอนของศาสนา ขาดขันติ ความอดทน มีใจคับแคบ ไม่มีการให้อภัยซึ่งกันและกัน ในสิ่งที่มีการล่วงเกินกัน การรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกันจะเป็นตัวที่มาทำลายความอิจฉาริษยา และความเกลียดชังออกไปจากหัวใจของผู้ที่ศรัทธา และเมื่อเขาปฏิบัติสิ่งนี้ได้เขาก็จะได้รับผลบุญจากอัลลอฮ์ อย่างแน่นอน
5. การที่คนเรามีเวลาว่างแล้วใช้เวลาว่างที่มีไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ จนบางครั้งได้เอ่ยถึงผู้อื่นในทางที่ไม่ดี
ข้อบัญญัติของการนินทา
การนินทาถือว่าเป็นบาปใหญ่ ทีเราจะต้องหลีกห่าง และการนินทานั้นจะไม่นำสิ่งใดมานอกจากความแตกแยกในสังคม ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนที่จะต้องออกห่างจาการนินทาว่าร้ายผู้ อื่น
สิ่งที่ไม่ถือว่าเป็นการนินทา
1. การร้องทุกข์โดยกล่าวพาดพิงถึงผู้ที่ได้ทำการอธรรม
2. การขอร้องแก่ผู้ที่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนความชั่ว โดยกล่าวถึงผู้ที่กระทำความชั่วนั้น
3. การเตือนให้ผู้คนระวังการจากบุคคลที่เป็นอันตรายต่อสังคม
4. การขอให้ชี้ขาดในปัญหาต่างๆโดยกล่าวพาดพิงถึงผู้อื่น เช่น กล่าวว่า เขาได้อธรรมฉันอย่างนั้นๆ
5. การกล่าวถึงความชั่วหรือการกระทำที่เป็นการอุตริขึ้นในศาสนา เช่นการกล่าวถึงภัยของเหล้า
6. การกล่าวถึงลักษณะเฉพาะของบุคคลหนึ่ง โดยมีเจตนาเพื่อให้เป็นที่รู้จัก เช่น การกล่าวถึงลักษณะบกพร่องทางร่างกาย เช่น เป็นใบ้ ขาเป๋ หรืออื่นๆจากนี้
ดังนั้นการนินทาเป็นสิ่งที่ไม่ดีและ เป็นที่ต้องห้ามในศาสนาผู้ใดที่ได้กระทำบาปนี้ ให้รีบเร่งในการขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ โดยตั้งอยู่บนเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1. การเลิกจากบาปนี้โดยสิ้นเชิงไม่กลับไปทำบาปนี้อีกต่อไป
2. เสียใจที่ลิ้นของเราได้ไปละเมิดและลบหลู่เกียรติพี่น้องของเรา
3. ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะไม่กลับไปทำความผิดนี้อีก
4. ขออภัยจากผู้ที่เราได้ทำการนินทาเขา พร้อมทั้งขอดุอาร์จากอัลลอฮ์ ให้เขาได้รับในสิ่งที่ดีๆ
แปลจากหนังสือ “ฉันต้องการที่จะกลับตัวจากการนินทา” ผู้แต่ง “เนาวาล”
แปลโดย อิสมาอีล กอเซ็ม