ลักษณะเด่นของมุสลิม
เมื่อเป็นมุสลิมนั้นเป็นอย่างไร? มีดีที่ตรงไหน? และแตกต่างกับคนอื่นอย่างไร?
การเป็นมุสลิมนั้นมิใช่ดูจากลักษณะภายนอก หรือรูปร่างหน้าตาที่ปรากฏให้เห็นอยู่ทั่วไปเท่านั้น หากรวมไปถึงลักษณะการแต่งกาย มารยาท ความรู้สึกนึกคิด การปฏิบัติต่อตนเอง ต่อสังคม ต่อศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการศรัทธายึดมั่นต่ออัลเลาะห์ และท่านนบีมุฮัมหมัด ซึ่งเป็นรอซูลของพระองค์
รูปร่าง หน้าตาของมนุษย์ ที่แตกต่างกันนั้น เพราะขึ้นอยู่กับเชื้อสาย ชาติกำเนิด เผ่าพันธุ์ และสภาพภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นกำหนดที่อัลเลาะห์ทรง ประสงค์จะให้เป็นเช่นนั้น เราจะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่มารยาท ความประพฤติ และความดีงามนั้น เป็นสิ่งที่เราสามารถฝึกฝน มุ่งหวัง และประพฤติปฏิบัติให้เป็นเช่นนั้นได้ หากเรามีความพยายามและตั้งใจจริง
การเป็นมุสลิมนั้น หากจะมองกันเท่าที่เห็น ก็พอจะสรุปได้ดังนี้
- มุสลิม คือผู้ที่ศรัทธามั่นในอัลเลาะห์ ยึดอัลเลาะห์เป็นที่พึ่ง ยอมสยบมอบตนต่อคำบัญชาของอัลเลาะห์ ยึดเอาแสงสว่างแนวทางของอัลเลาะห์เป็นแบบอย่าง และแสดงออกด้วยการกระทำตามแบบอย่างของอิสลามในทุกรูปแบบในการดำเนินชีวิต
- มุสลิม คือผู้ที่ศรัทธามั่นในอิสลามด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่ออัลเลาะห์องค์เดียวเท่านั้น ไม่มีสิ่งใดเจือปน แอบแฝง หรือมีส่วนร่วมในการดังกล่าว
- มุสลิม คือผู้ที่ชีวิตของเขาจะไม่มีคุณค่า ถ้าปราศจากการศรัทธาในอัลเลาะห์ อันเป็นรากฐานแห่งการงานทั้งมวล การงานใดก็ตาม แม้ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน ถ้ามิได้กระทำขึ้นเพราะมีความศรัทธาในอัลเลาะห์ แล้ว แน่นอนการงานนั้นย่อมไร้ผล ในทางตรงกันข้าม หากการงานนั้นเมื่อดูแล้ว อาจเห็นเป็นเรื่องเล็ก จิ๊บจ๊อย แต่ถ้ากระทำด้วยหวังในความโปรดปรานของอัลเลาะห์ เป็น ที่ตั้ง ก็จะได้รับรางวัลตอบแทนจากพระองค์ อินชาอัลลอฮ์ ดังเช่น การยิ้มแย้มแจ่มใส การช่วยจูงคนตาบอดข้ามถนน การเก็บสิ่งอันตรายตามถนนหนทาง ฯลฯ
ด้วยเหตุนี้ การเป็นมุสลิมจึงดีอย่างนี้เอง ฉะนั้น เมื่อเราจะทำอะไรก็ขอให้ทำเพื่ออัลเลาะห์ และหวังในความพอพระทัยจากอัลเลาะห์เพียงองค์เดียว อินชาอัลลอฮ์ อัลเลาะห์จะทรงตอบแทนความดีให้ ซึ่งต่างกับพวกกาฟิร เพราะแม้นว่าเขาจะทำดีสักปานใด ก็ไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆจากอัลเลาะห์ในโลกอาคิเราะห์ เพราะเขามิได้ศรัทธาในพระองค์
- มุสลิม คือ ผู้ที่วิถีชีวิตของเขาอยู่ในกรอบของอิสลาม เขาจะไม่กระทำตนล้ำขอบเขตที่อิสลามกำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา มารยาท ความประพฤติ โดยไม่เอาศาสนามาเป็นเครื่องมือ เขาจะเป็นผู้ที่มีจุดยืน ไม่โลเล หรือให้สิ่งอื่นใดมามีอิทธิพลเหนือกว่าการยึดมั่นปฏิบัติตามศาสนาของอัลเลาะ ห์
- มุสลิม คือผู้ที่มีเกียรติสูงส่ง มีศักดิ์ศรี รู้ค่าของพลังแห่งความจริงที่เขายึดถือมั่นศรัทธาอยู่ แต่ไม่หยิ่งยะโส หรืออ่อนแอตามแรงกดดันที่มีอยู่รอบด้าน และจะไม่ยอมให้สังคมกลืนเขาไป แต่เขาจะเป็นผู้ฉายแสงแห่งศรัทธาให้เจิดจ้าอยู่ตลอดไปท่ามกลางเมฆหมอก และแรงลมแห่งความชั่วร้ายและหลงผิดที่พัดกระหน่ำเข้ามาอย่างบ้าคลั่งรอบข้าง
ส่วนผู้ที่ยอมจำนนต่อขนบธรรมเนียมประเพณีที่ผิดๆที่มีอยู่แพร่หลายในสังคม จนบางครั้ง บางคนไม่สามารถจะแยกออกว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรควร อะไรไม่ควรนั้น เป็นเหตุทำให้เขาต้องตกอยู่ในห้วงเหวแห่งความหายนะ และถูกกลืนไปกับสังคมดังกล่าวในที่สุด
- มุสลิม คือผู้ที่อยู่ในหลักการ ยึดมั่นในศาสนา ปฏิบัติตนตามคำสอนของศาสนา เพราะชีวิต ร่างกาย และวิญญาณของมุสลิม มอบไว้แล้วแด่อัลเลาะห์ พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวเท่านั้น
นับเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก เมื่อเราเห็นว่า บางคนเขาละหมาดไม่ขาด แต่เขาก็เลิกทำความชั่วไม่ได้ เราเคยเห็นบางคนถือศีลอด แต่เขาก็อดที่จะระรานผู้อื่นไม่ได้ เราเห็นผู้ที่อ่านอัลกุรอานได้ไพเราะ แต่เขากลับไม่ทำตามอัลกุรอาน เราเคยเห็นบางคนทำซอดะเกาะห์เป็นผู้ใจบุญ แต่ความจริงแล้วเขาต้องการจะลำเลิก มีเล่ห์เหลี่ยมด้วยการศอดะเกาะห์นั้น บางทีเราเห็นคนที่กระทำความดี แต่เขาแฝงไว้ด้วยอันตรายสำหรับผู้ที่มาคบค้าสมาคมด้วย ถ้าหากเราเห็นใครยังเป็นเช่นดังกล่าวนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าเขายังเป็นผู้ศรัทธาที่แท้จริงไม่
การนับถือศาสนานั้น ไม่ใช่ว่าพูดแต่ปาก แต่ปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติอิบาดะห์ ไม่สนใจฮุก่มของอัลเลาะห์ และรอซูลของพระองค์ ลืมสัญญาที่อัลเลาะห์ทรงแจ้งว่าผู้ใดกระทำความผิดจะต้องได้รับโทษ สิ่งใดที่อัลเลาะห์ทรง ห้ามก็ฝ่าฝืน กระทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ไม่ปฏิบัติตามเรื่องราวที่อยู่คัมภีร์ของอัลเลาะห์ ไม่ปฏิบัติตามคำอธิบาย คำชี้แจง คำแนะนำของท่านรอซูล
การอีหม่าน มีศรัทธานั้น ไม่ใช่ว่าแสดงออกอย่างดี มีคำพูดไพเราะ หวานหู แต่ขณะเดียวกันก็แอบซ่อนกระทำการอันชั่วร้าย กระทำความชั่วไม่ยอมเลิก
ลักษณะของผู้ที่ศรัทธาอย่างแท้จริงนั้น อัลกุรอานกล่าวไว้ว่า :
แท้จริงบรรดาผู้ที่ศรัทธานั้น คือ ผู้ที่เมื่ออัลลอฮฺถูกกล่าวขึ้นแล้ว หัวใจของพวกเขาก็หวั่นเกรง และเมื่อบรรดาโองการของพระองค์ถูกอ่านแก่พวกเขา โองการเหล่านั้นก็เพิ่มพูนความศรัทธาแก่พวกเขา และแด่พระเจ้าของพวกเขานั้น พวกเขามอบหมายกัน
(อัลอัมฟาล 8 : 2)
บรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้นอบน้อมถ่อมตนในเวลาละหมาดของพวกเขา และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้ผินหลังให้จากเรื่องไร้สาระต่างๆ และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้บริจาคซะกาต และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้รักษา (ไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ของ) ทวารของพวกเขา
(อัลมุอฺมินูน 23 : 2-5)
และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้เอาใจใส่ต่อสิ่งที่ได้รับมอบหมายของพวกเขา และสัญญาของพวกเขา และบรรดาผู้ที่พวกเขาเป็นผู้รักษาการละหมาดของพวกเขา ชนเหล่านี้แหละพวกเขาเป็นทายาท(แห่งสรวงสวรรค์) ซึ่งพวกเขา จะได้รับมรดกสวนสวรรค์ชั้นฟิรเดาวส์ พวกเขาจะพำนักอยู่ในนั้นตลอดกาล
(อัลมุอฺมินูน 23 : 8-11)
แท้จริงอัลลอฮ์นั้นได้ทรงซื้อแล้วจากบรรดาผู้ศรัทธา ซึ่งชีวิตของพวกเขาและทรัพย์สมบัติของพวกเขา โดยพวกเขาจะได้รับสวนสวรรค์เป็นการตอบแทน พวกเขาจะต่อสู้ในทางของอัลลอฮ์แล้วพวกเขาก็จะฆ่าและถูกฆ่า เป็นสัญญาของพระองค์เองอย่างแท้จริง ซึ่งมีอยู่ในคัมภีร์เตารอฮ์ อินญีล และกรุอาน และใครเล่าจะรักษาสัญญาของเขาให้ดียิ่งไปกว่าอัลลอฮ์ ดังนั้น พวกท่านจงชื่นชมยินดีในการขายของพวกท่านเถิด ซึ่งพวกท่านได้ขายมันไป และนั่นคือชัยชนะอันใหญ่หลวง
(อัตเตาบะห์ 9 : 111)
ดังกล่าวนี้คือลักษณะเด่นของมุสลิมที่เราพอจะมองเห็นได้โดยสังเขป และถ้าหากพวกเรายึดถือศาสนาที่มาจากอัลเลาะห์และรอซูลของพระองค์อย่างแท้ จริงแล้ว แน่นอนเหลือเกินว่า พลังของมุสลิมทั่วโลกนั้นจะเข้มแข็งอย่างยิ่ง ถ้าหากเราไม่ใช้จ่ายทรัพย์สินไปในเรื่องที่ฮะรอม แน่นอนเหลือเกินว่า เราจต้องมีเงินทองเหลือไว้ใช้จ่ายในการช่วยเหลือคนยากจน ช่วยเหลือสังคม และบริจาคไปในหนทางของอัลเลาะห์อย่าง มากมาย ถ้าหากเราใช้อัลกุรอานและอัลฮะดีษ ตัดสินข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในหมู่พวกเราแล้ว แน่นอนความยุติธรรมก็จะเกิดขึ้นไม่ต้องมีการประหัตประหารฆ่าฟัน
เราขอความคุ้มครองจากอัลเลาะห์ อย่า ให้เราเป็นผู้ที่นับถือศาสนาแต่เพียงรูปลักษณะภายนอกด้วยท่าทางหรือเครื่อง ประดับ เครื่องนุ่งห่มเลย ไม่ใช่ว่าคนที่ในมือถือลูกตัสบีฮ์ทุกคนจะเป็นผู้ที่เคร่งครัดในศาสนา ไม่ใช่ว่าผู้ที่เขาสวมใส่ชุดขาว แต่สลัดหลักการศาสนา จะเป็นผู้ที่เคร่งครัดศาสนา
ผู้ที่นับถือศาสนาอย่างแท้จริงนั้น จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1. เคารพภักดีต่ออัลเลาะห์)ทั้งกิริยา วาจา ใจ ทั้งภายนอก และภายใน
2. ต่อสู้ในหนทางของอัลเลาะด้วยอาวุธ ด้วยปากกา ด้วยคำพูด
3. บริจาคทรัพย์ในหนทางของอัลเลาะห์ โดยไม่ตระหนี่ถี่เหนียว
4. กระทำสิ่งใดก็เพื่อหวังความโปรดปรานจากอัลเลาะห์ ไม่หวังจากมนุษย์
5. เมื่อพูดจา ก็จะพูดแต่ความจริงๆ แม้ว่าจะกระทบกระเทือนตัวเอง หรือญาติพี่น้องก็ตาม
6. น้อมรับคำสั่งที่เป็นเรื่องของศาสนา
7. เมื่อเป็นผู้ตัดสิน ก็จะตัดสินด้วยความยุติธรรม
8. เมื่อมั่นใจ และพร้อมจะกระทำการงานใดๆ ก็ลงมือกระทำทันทีโดยไม่เชื่อถือฤกษ์ยาม
9. เมื่อรับมอบหมายงานก็จะปฏิบัติหน้าทีอย่างดีที่สุด เป็นที่ไว้วางใจได้
10. เมื่อมีวิชาความรู้ในเรื่องของศาสนา ก็จะสั่งสอนอบรมเพื่ออัลเลาะห์ไม่หวังผลประโยชน์ใดๆ
มุสลิมนั้นต้องรักใครกัน ห่วงใยกัน เหมือนคนๆเดียว เมื่อส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเจ็บปวด ร่างกายก็จะอ่อนล้าตามไปด้วย
อิสลามสอนว่ามุสลิมนั้นเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน ไม่มีการโอ้อวด อวดโต กระทำตนเหนือกว่าผู้อื่นๆ คนรวยก็ช่วยเหลือคนจน คนจนก็กระทำการงานไปตามความสามารถ ไม่สิ้นหวังในความเมตตาของอัลเลาะห์ ใครได้ดีเราก็ดีใจ ใครป่วย เราก็ไปเยี่ยม ใครตายเราก็ไปช่วยละหมาดขอดุอาอฺให้
ดังที่กล่าวมานี้ ล้วนแต่เป็นคำสอนของศาสนา ถ้าหากพวกเราปฏิบัติตาม สังคมของเราก็จะเป็นสังคมที่สงบสุข เต็มไปด้วยความอบอุ่น ภายใต้บรรยากาศแห่งความเป็นพี่น้องร่วมศาสนาอย่างแท้จริง
โดย : อบูอาลียา
สายสัมพันธ์