12 สัญญาณว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยน

uttaradit profile image uttaradit

12 สัญญาณว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยน

                มองจากภายนอกอาจเห็นว่าร่างกายแข็งแรง แต่ภายในอาจไม่เป็นอย่างที่คิด ให้คุณลองสังเกตตัวเองดูจะได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ทันก่อนป่วย

1. นอนนานแต่ไม่อิ่ม
                ถ้าคุณรู้สึกว่านอนเท่าไหร่ก็ไม่พอ แม้จะนอนเกิน 8 ชั่วโมงแล้วก็ยังอยากนอนต่อ อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ โดยเฉพาะฮอร์โมนเมลาโทนินที่มีส่วนช่วยในเรื่องของความผ่อนคลาย และโกรว์ธฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องของความอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ คนที่มีไขมันสูงและเป็นเบาหวาน ก็อาจรบกวนการนอนได้เหมือนกัน

                คุณควร : ถ้าอาการนี้ปรากฏต้องเริ่มจากหาผู้ร้ายว่าอะไรที่ทำให้ฮอร์โมนผิดปกติ และฮอร์โมนอะไรที่ผิดปกติ โดยการตรวจสุขภาพ (แม้คุณจะตรวจประจำปีเป็นประจำแล้วก็ตาม) และการเจาะเลือดเพื่อตรวจฮอร์โมน

2. ผมบางเป็นหย่อม ๆ
                ผมบริเวณกลางศีรษะร่วงจนเห็นเป็นหย่อม ๆ นอกจากเรื่องความงามแล้ว งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโตเกียวพบว่า อาการนี้อาจมีที่มาจากฮอร์โมนซึ่งทำให้คุณมีความเสี่ยงโรคหัวใจเพิ่มขึ้นถึง 32%

                คุณควร : ถ้าจะปรับที่ตัวฮอร์โมนคงยาก แต่สิ่งที่คุณพอทำได้ก็คือ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ ½ ชั่วโมง และดูแลอาหารการกินให้มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงของโรคนี้จากสาเหตุอื่น

3. รอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
                ลองยิ้มแล้วส่องกระจกดู รอยยิ้มที่ปกติเมื่อลากเส้นเชื่อมมุมปากสองข้าง เส้นจะต้องถูกแบ่งครึ่งบริเวณระหว่างกลางของฟันหน้าทั้งสองซี่พอดี หากรอยยิ้มไม่สมมาตรลองทดสอบโดยแลบลิ้นดูแล้วสังเกตว่าลิ้นเบี้ยวหรือไม่ หากรอยยิ้มและลิ้นผิดปกติไป เป็นไปได้ว่าคุณมีอาการอักเสบของเส้นประสาทสมองคู่ที่เจ็ด (โรคเบลล์พัลซี่) อาการของหลอดเลือดในสมองที่จะส่งผลให้เป็นอัมพาตหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต และยิ่งหากมีอาการร่วม เช่น หลับตาให้สนิทไม่ได้นั่นอาจหมายถึงคุณมีเนื้องอกในสมอง

                คุณควร : รีบไปพบแพทย์ภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที เพราะหากเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากหลอดเลือดในสมอง ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นนาทีทองที่อาจช่วยให้คุณพ้นจากอัมพาตและความตายได้

4. ปื้นดำที่ลำคอ รักแร้ ขาหนีบ และข้อนิ้ว
                เรียกว่า Aanthosis Nigricans เป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าความเสี่ยงโรคเบาหวานของคุณสูงมาก เมื่อพบปื้นนี้รีบหาเวลาไปเจาะเลือดตรวจด่วน ๆ เชื่อเถอะว่าหากระดับน้ำตาลไม่เกินก็ปริ่ม ๆ เกณฑ์แล้ว ปื้นนี้พบได้ไม่จำกัดช่วงวัย แม้แต่ในเด็กก็มีไม่น้อยเลย

                คุณควร : นอกจากลดสารพัดอาหารมัน ๆ เค็ม ๆ หวาน ๆ แล้ว ก็ควรกินอาหารที่มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาล ซึ่งก็คืออาหารที่มีโครเมียม เช่น ถั่วลิสง ถั่วปากอ้า อัลมอนด์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง อาหารทะเล มะเขือพวง มะระขี้นก และอบเชย

5. หลังมือหย่อนคล้อย
                ลองหยิกหลังมือของตัวเอง จับยืดขึ้นประมาณ 5 วินาทีแล้วปล่อยลง หากตรงที่เราเพิ่งปล่อยมีรอยยับย่นให้เห็นแสดงว่าคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวถูกทำลายจนเหลือน้อยแล้ว นี่เป็นสัญญาณของความแก่

                คุณควร : สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความแก่มาเยือนคุณเร็ว อาจเป็นเพราะคุณดื่มน้ำน้อยเกินไป ต้องเริ่มแก้ไขจากการดื่มน้ำสะอาดให้ได้ตามน้ำหนักตัว โดยน้ำ 1 ออนซ์ (30 ซี.ซี.) ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ ยังควรงดอาหารหวานจัด ๆ เพราะน้ำตาลก็ถือเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่ทำลายคอลลาเจน

6. ตกกระ และไฝอันตราย
                หมั่นสังเกตผิวหนังของตัวเองบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า แขน ขา อก หรือแผ่นหลัง หากมีจุดเล็ก ๆ ดำ ๆ คล้ายตกกระหรือไฝเกิดขึ้นแล้วจุดนั้นโตเร็วผิดปกติ (ใหญ่ขึ้น 1-2 เท่าภายในหนึ่งเดือน) ดูขรุขระเหมือนหนูแทะและดูน่าเกลียดน่ากลัวไม่สม่ำเสมอ นี่อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งผิวหนัง ต้องรีบไปพบแพทย์ให้ด่วนที่สุดก่อนมะเร็งจะลุกลาม

                คุณควร : ก่อนออกแดดทุกครั้งต้องทาครีมกันแดดให้ทั่วร่างกาย เลือกแบบที่มี SPF ค่อนข้างสูง และต้องทาให้มีความหนามากพอด้วย นอกจากนี้ ยังต้องกินอาหารที่ช่วยกันแดด งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลพบว่า ไลโคปีนในมะเขือเทศมีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระจากรังสียูวี จึงแนะนำให้กินมะเขือเทศราชินี 10-15 ผลต่อวัน หรือถ้ากินเป็นน้ำมะเขือเทศก็ประมาณ 2 แก้วต่อวัน เพื่อป้องกันมะเร็งผิวหนัง

7. มีวงขาวรอบตาดำ
                นี่เป็นวงแหวนของไขมันที่มีมากเกินควรจนล้นออกมาจับที่กระจกตา เรียกว่า Arcus Senilis บ่งบอกว่าไขมันในเส้นเลือดของคุณสูงทะลุลิมิต แม้จะพบบ่อยในคนแก่ แต่ไลฟ์สไตล์ไม่เฮลตี้ทั้งหลายก็ทำให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ มีอาการนี้ได้เหมือนกัน

                คุณควร : รีบไปเจาะเลือดตรวจดูว่าปริมาณไขมันสูงมาก-น้อยขนาดไหน และอยู่ในระดับที่พอจะควบคุมเองได้ หรือจำเป็นต้องให้แพทย์ช่วยดูแล หากยังไม่สูงมากหรือไม่อยากเป็น ก็ต้องเลี่ยงการกินแป้งและน้ำตาล เพราะสารอาหารในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตนี้จะสะสมในร่างกายในรูปของไขมัน และเพิ่มการกินไขมันดีจากปลา และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เช่น น้ำมันมะกอก รำข้าว และดอกคำฝอย

8. ความจำแย่ลง ไม่มีสมาธิ
                ยังไม่ต้องตกใจ ถ้าจู่ ๆ คุณก็หลง ๆ ลืม ๆ ทั้งที่แต่ก่อนมีความทรงจำที่ดี แต่เดี๋ยวนี้ จำอะไรสักอย่างกลับต้องใช้เวลานานขึ้น นี่อาจไม่ใช่อาการความจำเสื่อม หรืออัลไซเมอร์เสมอไป ส่วนใหญ่จะเป็นข้อบ่งชี้ถึง "ภาวะสมาธิสั้นในผู้ใหญ่" เสียมากกว่า

                คุณควร : อาการนี้เกิดขึ้นเพราะคุณทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน (Multi-Tasking) มากเกินไป ทางแก้ก็ง่าย ๆ แค่เปลี่ยนมาค่อย ๆ ทำอะไรไปทีละอย่าง ใช้สมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำมากขึ้น เช่น เวลากินข้าวก็งดดูทีวี หรืออ่านหนังสือพิมพ์ไปพร้อม ๆ กัน

 

 

9. สัดส่วนของนิ้วมือ
                เรื่องนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ที่แน่ชัด แต่ก็เคยมีการค้นพบว่าสัดส่วนความยาวของนิ้วชี้และนิ้วนาง ควบคุมโดยเทสโทสเทอโรนซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย หากนิ้วชี้สั้นกว่านิ้วนางมาก ๆ แสดงว่าในร่างกายมีฮอร์โมนนี้สูง ในผู้ชายอาจจะต้องระวังเรื่องของมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนในผู้หญิงก็ต้องระวังเรื่องโรคหัวใจ

                คุณควร : สำหรับผู้ชายควรปรึกษาแพทย์ในเรื่องของการตรวจมะเร็งเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป หรือหากมีประวัติเสี่ยง เช่น ญาติใกล้ชิดเป็นโรคนี้ก็ต้องตรวจให้เร็วขึ้น ส่วนสำหรับสาว ๆ หากจะแก้ที่ฮอร์โมนก็คงยาก ควรปรับลดความเสี่ยงโรคหัวใจจากสาเหตุอื่น เช่น หยุดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และลดน้ำหนักไม่ควรให้ดัชนีมวลกาย (BMI) เกิน 23

10. รอบพุงมฤตยู
                ถึงแม้คุณจะเป็นคนแขนเล็กขาเล็ก แต่ถ้าอ้วนลงพุงละก็...อันตราย ! ลองยืนตัวตรงแล้วก้มลงแค่คอ มองดูซิว่าคุณเห็นปลายเท้าตัวเองหรือไม่ ยิ่งพุงยื่นจนบดบังปลายเท้ามากเท่าไหร่ พึงระลึกไว้เลยว่า อายุของคุณก็จะยิ่งสั้นลงเท่านั้น

                คุณควร : เลี่ยงอาหารที่เป็นแป้งกับน้ำตาล เพราะอาหารในกลุ่มนี้มักสะสมในรูปของไขมันรอบพุง เพิ่มการกินไขมันดี เช่น น้ำมันปลา ปลาสด และกะปิ เพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นจากการอ้วนลงพุง และออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง เช่น ซิทอัพ เพื่อเพิ่มการเผาผลาญไขมันในบริเวณนี้

11. จับปีกดูความหนา
                ใต้ท้องแขนนั้นเหมือนเป็นตัวบ่งชี้ถึงมวลไขมันทั้งร่างกาย ลองยกแขนขึ้นแล้วใช้นิ้วคีบเนื้อใต้ท้องแขนดูว่าหนาแค่ไหน หากเกินหนึ่งเซนติเมตรหมายความว่ามวลไขมันของคุณเยอะเกินไปแล้ว

                คุณควร : ออกกำลังกายให้มากขึ้น มวลไขมันที่สะสมพอกพูนนี้เป็นเพราะคุณกินมาก ออกกำลังกายน้อย และร่างกายยังมีคอลลาเจนน้อยด้วย ดังนั้น จึงต้องแก้ที่ต้นเหตุ นอกจากเพิ่มคอลลาเจนด้วยการออกกำลังกายแล้ว ยังอาจกินคอลลาเจนและวิตามินซี แบบที่เป็นอาหารเสริมช่วยด้วยก็ได้

12. ท้องแขนกระพือได้
                ยกมือข้างที่ถนัดขึ้นแล้วโบกไปมาซ้าย-ขวาเร็ว ๆ สังเกตดูได้ท้องแขนว่าหย่อนคล้อยจนโบกสะบัดไปมาเหมือนปีกหรือไม่ ถ้ามี...นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณแก่ที่บอกว่าคุณกินแป้งและน้ำตาลมากเกินไป จนร่างกายเริ่มย้อยและเริ่มยับ

คุณควร : เปลี่ยนจากการกินพวกคาร์โบไฮเดรตขัดขาวทั้งหลายมาเป็นพวกที่มีกากใยอาหารด้วย เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท

 

 

 

ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

uttaradit Icon GPS ตามที่กรมการขนส่งกำหนด อ่าน 1,006 8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา
8 ปีที่ผ่านมา