ยังคงเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ยังคงพูดถึงอยู่เสมอ ซึ่งถือเป็นอีกเหตุการณ์ที่รุนแรงและโหดร้าย เพราะจ่าคลั่งกราดยิงผู้บริสุทธิ์ไม่เลือกหน้า สร้างความสะเทือนใจและเกิดความสูญเสียอย่างมาก
โดย นางประพรรณ ปะโกทะสังข์ อายุ 66 ปี ยายพลทหารแบงก์ เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังพ่อแม่แยกทางกันลูกสาวได้นำแบงก์ มาฝากให้ยายเลี้ยง จากนั้นลูกสาวก็ได้แต่งงานใหม่กับชาวอังกฤษ และย้ายไปอยู่ประเทศอังกฤษประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ส่วนแบงก์เรียนจบชั้นม.3 ออกมาทำงานรับจ้างกรีดยาง อายุ 18 ปี ได้แต่งงานกับหญิงสาวบ้านเดียวกัน มีลูกชายชื่อน้องดีโน่ อายุ 4 ขวบ
แต่ต่อมาแยกทางกับภรรยาตอนน้องดีโน่อายุ 1 ขวบ ซึ่งแบงก์ได้เลี้ยงลูกเอง พอถึงเวลาต้องเกณฑ์ทหารก็ได้สมัครเป็นทหารด้วยความสมัครใจ เพราะชอบอาชีพทหาร อยากเป็นทหารมาก โดยให้เหตุผลว่า ถ้าจับใบดำใบแดงเกรงว่าจะไม่ได้เป็นทหาร เลยตัดสินใจสมัครและได้ไปประจำที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ขณะประจำการก็มักจะโทรศัพท์มาหาลูกและยายประจำ โดยบอกว่าเดือนเมษายนจะปลดประจำการแล้ว
นางประพรรณ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์ แบงก์โทรศัพท์มาหาบอกว่าได้ลาหยุดพัก 10 วัน วันที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ จะกลับบ้านไปหาลูกและยาย เพราะคิดถึงน้องดีโน่ และเมื่อกลับค่ายไม่นานก็จะปลดประจำการในเดือนเมษายน แต่จะไปสมัครเป็นทหารพรานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีก ขณะกำลังรอวันที่แบงก์กลับมาพักที่บ้าน
ช่วงบ่ายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เพื่อนทหารได้โทรศัพท์มาบอกว่า แบงก์ถูกยิงที่หน้าอกและท้อง 3 นัด บาดเจ็บสาหัส ที่คลังสรรพวุธขณะนอนหลับ ญาติต่างก็ตกใจก็ได้แต่ภาวนาให้แค่บาดเจ็บ และประสานญาติที่เป็นทหารด้วยกันไปดู จนกระทั่ง 2 ทุ่ม ญาติโทรมาบอกว่าแบงก์เสียชีวิตแล้ว ญาติต่างร้องไห้ระงม และได้โทรบอกแม่แบงก์ที่ อังกฤษถึงกับร้องไห้โฮ และกำลังเดินทางกลับเมืองไทย