ณ ป้อมตำรวจตลาดหนามแดง ริมถ.เทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ วันที่ 29 มกราคม 2563 เวลาประมาณหนึ่งทุ่มเศษ ซึ่งเป็นเวลาที่ผมจะออกเวรรักษาการณ์ หลังจากที่ผมเก็บอุปกรณ์และปิดป้อมเรียบร้อย เตรียมตัวจะเดินทางกลับที่พัก ผมก็พบกับกลุ่มคนยืนอยู่ข้างป้อมตำรวจ กำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่
ผมจึงเข้าไปสอบถามได้ความว่า มีผู้เก็บกระเป๋าเงินได้ และจะนำมาส่งให้ตำรวจติดตามหาเจ้าของ จากนั้นผมก็สอบถามชายหนุ่มที่เก็บกระเป๋ามาได้ว่า พบเจอที่ไหน เค้าบอกว่าเค้าเดินเก็บของเก่าริมถนนไปขาย พอเดินมาถึงหน้าบริเวณโชว์รูมรถแห่งหนึ่งก็เจอกระเป๋าเงินเข้า จึงเก็บขึ้นมาดู พบว่ามีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง จึงคิดจะนำมาส่งตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของ
ผมจึงถามเค้าว่า ทำไมไม่เก็บไว้เองล่ะ เค้าส่ายหน้าแล้วตอบผมว่า ไม่ใช่ของผม ผมไม่เอา ผมอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงสอบถามที่อยู่ ซึ่งเค้าบอกว่าจำบ้านเลขที่ไม่ได้ ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ และก็ไม่บอกชื่อ ผมจึงเปิดกระเป๋าออกดู โดยมีพยานยืนดูพร้อมกับชายหนุ่มที่เก็บกระเป๋ามาด้วย ตรวจสอบมีเงินในกระเป๋าประมาณ 2500 บาท พร้อมใบขับขี่ บัตรประชาขน บัตรเอทีเอ็ม และบัตรนักศึกษาของเจ้าของกระเป๋า จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับชายหนุ่มที่ไม่ยอมให้ข้อมูลส่วนตัวอะไรเลย เสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินจากไปเฉยๆ ผมบอกขอบคุณเค้าแล้วจึงนำกระเป๋ามาดำเนินการตามหาเจ้าของ
กระทั่งวันรุ่งขึ้นก็ติดต่อเจ้าของกระเป๋ามารับคืน แล้วตรวจสอบทรัพย์สิน ปรากฎว่าครบถ้วนสมบูรณ์ไม่สูญหายเลยสักอย่าง สอบถามเจ้าของกระเป๋าบอกว่า อาศัยอยู่ที่คลองสามปทุมธานี มาหาพ่อที่มาเหมางานอยู่ที่โชว์รูมรถ แล้วเอากระเป๋าใส่ในช่องข้างประตู คงจะหล่นตอนเปิดปิดประตูรถ
โชคดีของเค้าที่ได้เจอพลเมืองดีมีน้ำใจคนนี้ แต่พวกเค้าไม่ได้มีโอกาสเจอหน้ากันนะครับ มีเพียงคำขอบคุณที่ฝากไว้ให้ ภายหลังผมรู้มาว่า ชายหนุ่มคนนั้นเขาพักอยู่ที่หมู่บ้านเฟื่องฟ้า9 เฟส2 เค้าคือคนดีที่ควรเชิดชูใช่มั้ยล่ะครับ
คำที่ผมประทับใจมากคือ ไม่ใช่ของผมผมไม่เอา ถ้าทุกคนมีจิตสำนึกที่ดีแบบนี้ คอรัปชั่นคงจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอนครับ
ขอบคุณเรื่องราวจาก : สมชาย เอี่ยมสิน
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=2279470019019484&id=100008695230890