เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร ต อ อุบล วงศ์คำชัย รองสารวัตร สอบสวน สภ สังคม จังหวัดหนองคาย รับแจ้งคนถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านดงต้อง ตำบล ผาตั้ง จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ ต อ ณรงค์ ตันดี ผกก สภ สังคม พ ต ท ปัตตะพงษ์ พัฒนิบูลย์ รองผกก สส สภ สังคม พ ต อ ญเพียงหทัย สุพล ผกก พิสูจน์หลักฐานจังหวัดหนองคาย นางาสาว ศิริกัลยา กิจรักษา นายอำเภอสังคม แพทย์เวรโรงพยาบาลสังคม และหน่วยกู้ภัยประจักษ์หนองคาย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ อยู่ในบ้านดงต้อง ต ผาตั้ง อ สังคม จ หนองคาย ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ บริเวณห้องครัว ด้านข้างของบ้าน พบศพนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 52 ปี เป็นกำนันตำบลผาตั้ง ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า กำนันเตี้ย สวมเสื้อแขนยาวสีม่วง กางเกงขายาวสีดำ นอนหงายเสียชีวิต เลือดไหลนองเต็มพื้น ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม ตกอยู่ 1 ปลอก และหัวกระสุน 11 มม 1 หัว ชันสูตรพบว่านางกรรณิการ์ ถูกยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด กระสุนฝังใน เสียชีวิตทันที
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบว่า ช่วงเวลาประมาณ 09 27 น ขณะที่ นายพิเดช วงค์ศิริ อายุ 53 ปี สามีผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง พาหลานสาวออกจากบ้าน จังหวะที่สามีผู้ตายขี่รถออกไป ได้มีคนร้ายเป็นชาย สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีเขียวขี้ม้า สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง กลางเก่ากลางใหม่ มีคันเบ็ดอยู่หน้ารถ ขี่รถวกเข้ามาทักทายร้านน้ำแข็งใส เยื้องกับบ้านผู้ตาย แล้วขี่รถมาจอดหน้าบ้านต่อจากรถของสามีผู้ตาย จากนั้นคนร้ายได้ทำทีเข้าไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง พอนางกรรณิการ์ ผู้ตาย เดินมาขายของให้ แล้วเดินกลับไปในครัว คนร้ายได้เดินตามไปแล้วใช้อาวุธปืนที่พกไว้บริเวณเอวข้างซ้าย ยิงไปที่นางกรรณิการ์ 2 นัด แล้วเดินออกจากบ้าน ขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่ออกไป โดยมุ่งหน้าไปทางบ้านลาดหอคำ อ บ้านผือ จ อุดรธานี
ด้านนายพิเดช วงค์ศิริ สามีผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนจะพาหลานสาวไปบ้านญาติท้ายหมู่บ้าน ภรรยาอยู่บ้านคนเดียว ไม่นานญาติก็โทรศัพท์มาบอกว่าภรรยาถูกยิงเสียชีวิต จึงรีบกลับบ้าน ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายกับภรรยา ซึ่งภรรยาเป็นกำนันตำบลผาตั้งมาได้ 3 ปี ตั้งใจทำงานมาโดยตลอด ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2559 ที่วัดถ้ำดินเพียง มีการทำบุญกฐิน ตนกับภรรยาเป็นกรรมการวัด แล้วเกิดมีปัญหาเงินหายไป 85000 บาท ก็ได้สอบถามและพยายามติดตามเงินกลับมา จนเรื่องจบไปแล้ว ต่อมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทราบว่าภรรยาไปช่วยชาวบ้านเจราจากับเจ้าของที่ดินรายหนึ่งซึ่งปิดถนนทางเข้าสวนของชาวบ้าน จนเกิดมีปัญหากันขึ้น
ขณะที่ นางสาวธนภา สาวิกัน อายุ 38 ปี น้องสาวผู้ตาย เล่าว่า เมื่อปี 2562 มีชาวบ้านมาร้องเรียนขอให้กำนันช่วยเหลือเพราะถูกเจ้าของที่ดิน อ้างสิทธิ สปก ปิดทางสัญจรชาวบ้านที่ใช้เดินทางผ่านไปไร่นา ไม่ให้ชาวบ้านผ่านทาง ทั้งที่เคยสัญจรไปมานานหลายสิบปี พี่สาวก็ไปช่วยพูดเจรจา จนมีการนัดเจ้าหน้าที่ สปก มาตรวจสอบกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้าน จนล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการนัดพูดคุยหาทางออกที่ อบต.ผาตั้ง วันนั้นพี่สาวมาเล่าให้ฟังว่า เกิดการทะเลาะกับเจ้าของที่ดิน จนเจรจากันไม่ได้ แก้ปัญหาไม่สำเร็จ ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นชนวนเหตุให้พี่สาวถูกฆ่าตาย เพราะพี่สาวไม่ได้มีปัญหาเรื่องอื่นแต่อย่างใด
ขณะที่ นางสาวเฟื่องฟ้า สาวิกัน อายุ 31 ปี หลานสาวผู้ตาย ผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ตนเห็นรถจักรยานยนต์สีแดง มาจอดอยู่หน้าบ้าน นึกว่าเป็นลูกค้ามาซื้อของตามปกติ ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จากนั้นเห็นผู้ชายสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้าน ตนจึงรีบวิ่งมาดู ก็เห็นกำนัน ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
พ ต อ ณรงค์ ตันดี ผกก สภ สังคม เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นกำนันนักพัฒนา ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ชาวบ้านรักใคร่ดี ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่บ้านผู้ตายติดตั้งไว้ 6 ตัว แต่ไม่มีตัวไหนหันภาพไปทางห้องครัว ทำให้จับภาพขณะคนร้ายก่อเหตุไม่ได้ เห็นเพียงจังหวะก่อนหน้าที่คนร้ายขี่รถเข้ามา แล้วมาทำทีซื้อของ แล้วขี่รถออกไป ซึ่งได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ สังคม และประสานชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายมาช่วยอีกทางหนึ่ง โดยจะมีการเช็คเส้นทางหลบหนี ประสานกับพื้นที่ สภ บ้านผือ ซึ่งอยู่ใกล้กัน ตรวจสอบช่วยอีกทางหนึ่ง เบื้องต้นให้น้ำหนักปมสังหารไปที่การขัดแย้งเรื่องที่ดิน กับปัญหาทางวัด เป็นหลักก่อน และจะสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีประเด็นอื่น ๆ อีกหรือไม่ คดีนี้ผู้บังคับบัญชาได้กำชับให้ติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญของประชาชนในพื้นที่ ต้องเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้