จากกรณีที่นายฐิฏิวัสส์ ศิรเศรษฐกร หรือ พีท คนเลือดบวก ได้โพสต์ขอความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ขอดำเนินคดีตามกฎหมายกับบุคลในภาพ และจะไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น งดการคอมเม้นต์ด้วยถ้อยคำอันหยาบคาย อยากเป็นให้ดีกว่าเค้าอย่าทำเหมือนที่เค้าทำ1 ในหลายร้อยกรณีตัวอย่าง ที่จะสอนให้นักวิจารณ์ได้รู้ว่า คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ใครเสียๆหายๆ แบบนี้ และคุณคือนักศึกษาพยาบาล! เป็นว่าที่บุคคลากรทางการแพทย์ หน้าตาดี โปรไฟล์ดี แต่คำพูดนั้น !! … ถึงแม้ผมจะเป็นคนสาธารณะ แต่ผมมีสิทธิมนุษยชนที่ผมพึงมี พึงทำ และคุณกำลังละเมิดสิทธิ์ ริดรอนความเป็นมนุษย์ของผม! การลบโพสต์ไม่ได้ช่วยให้อะไรๆดีขึ้น!”
โดยจากกรณีดังกล่าวสืบเนทื่องมาจาก ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Narinya Mongkoleiam ได้เข้าแคปภาพข้อความของ พีท แล้วนำไปโพสต์พร้อมกับระบุข้อความว่า “ถ้าปลอดภัยจริงมึงจะติดโรคมาหรอ อีหน้าโง่ คิดด้วยค่ะ อายหมานะเสร่อไปสอนคนอื่นแบบนั้นน่ะ” ทั้งยังแท็กไปหาพีทอีกด้วย
ต่อมาทางรายการ ตีสิบได้ออกมาโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ชี้แจงจากรายการตีสิบเดย์ กรณี #พีทเลือดบวก ได้กระทำการไม่เหมาะสมในเรื่องส่วนตัว และพาดพิงมาถึงรายการ
เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางรายการตีสิบเดย์เชิญคุณพีท คนเลือดบวก มาเป็นแขกรับเชิญ เพราะอยากนำเสนอประเด็นของเชื้อ HIV ในเชิงการให้ความรู้ การดูแลป้องกันและการอยู่กับเชื้ออย่างเข้าใจ ไม่ได้มีเจตนาส่งเสริมให้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันในทางที่ผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางรายการไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
และรายการมิได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องนี้แต่อย่างใด เบื้องต้นทางเราได้ทำการลบคลิป เพื่อไม่ให้คุณพีทนำไปใช้ในทางที่ผิด และจะดำเนินการทางกฎหมายเป็นลำดับถัดไป
และทั้งนี้ทางรายการตีสิบเดย์ ยังคงมุ่งเน้นการให้สาระความรู้กับผู้ชมอย่างเสมอมา หากสิ่งใดไม่เหมาะสมทางเราจะรีบจัดการโดยด่วน ขอขอบคุณทุกข้อเสนอแนะคำติชมมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ #รับผิดชอบต่อสังคมคือหน้าที่ของสื่อ #แฟนรายการคือหัวใจสำคัญ saveตีสิบเดย์ ทางเราขอประกาศไม่ทำการสนับสนุนบุคคลที่มีทัศนคติย่ำแย่แบบนี้อีกต่อไป”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ทนายตัวแสบ:Badass Attorney ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “แนวทางการสู้คดีของน้องเรื่องเพจคนเลือดบวกจะฟ้อง เดาๆ เอาว่าเพจนั้นคงกะฟ้องหมิ่นประมาท+พรบ.คอมมั้ง แต่เพจนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า ความผิดฐานหมิ่นประมาท ปัจจุบันไม่อาจโยงไปเอาผิดเรื่อง พรบ.คอมได้ กฎหมายวางแนวไว้ชัดเจนแล้ว ก็คงเอาผิดฐานหมิ่นประมาท
ทีนี้ถ้าจะเอาผิดฐานหมิ่นประมาทเขาต้องพิสูจน์ว่าสิ่งที่น้องพิมพ์ “เป็นการใส่ความต่อบุคคลที่สาม จนถูกคนอื่นดูหมิ่นเกลียดชัง” (แต่เราว่ามีคนไม่ชอบแนวคิดเขาเยอะอยู่แล้วนะ) แต่ในมุมเราอ่ะเราว่าน้องพิมพ์ไปและวิจารณ์อย่างสุจริตนะ แต่เออภาษามันแรงไหมแรงแหละ
แต่!!! อย่าลืมว่าที่น้องลงไปนั้นก็เป็นข้อความโฆษณาของเพจนั้นเองไม่มีตัดต่อข้อความใดๆ ซึ่งเอาจริงจัง คนที่เขาสบายดี ก็ต้องไม่โอเคกับไอ้คอร์สของเขาปะวะ คือใครอยากลองไปเสี่ยงติดเชื้อ HIV มึง บ้า หรือ เปล่า !!!!! เอาในมุมเราน้องก็มีทางต่อสู้แหละว่า วิจารณ์ในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพพยาบาล หรือกำลังศึกษาทางวิชาชีพ(น้องเรียนจบยัง?) และหรือในฐานะประชาชนทั่วไปที่ไม่โอเคกับคอร์สดังกล่าว
แต่คำที่น้องใช้มันแรงไหม อันนี้ต้องบอกว่ามันก็แรงแหละ แต่สำหรับเรา เราก็ยังมองว่าสู้ได้หรือผิดเต็มที่ก็แค่ดูหมิ่นจากคำด่าว่า “อีหน้าโง่ !!!!!” “สมองหมา” ซึ่งโทษดูหมิ่นก็ไม่แรงเท่าหมิ่นประมาทนะ แต่ก็เป็นไปได้เช่นกันว่าศาลอาจยกฟ้องไปเลยเพราะสิ่งที่เพจนั้นพยายามนำเสนอคือ “คนติดเชื้อ HIV สามารถนอนกับใครโดยไม่ต้องสวมถุงยางก็ได้ แค่กินยา” มึงจะบ้าเหรอ !!!!!!!
ถามคนอื่นในสังคมไหมพ่อคุณ !!!! เอาโดยสรุปเราว่าพอมีทางสู้คดีได้เยอะพอสมควรซึ่งถ้ายกฟ้องมาจริงๆ เพจเลือดบวกจะเจอฟ้องกลับหรือไม่ ต้องไปติดตามกันต่อใน EP หน้าที่จะมาหรือไม่มาก็ไม่รู้
ขอบคุณเฟซบุ๊ก ทนายตัวแสบ:Badass Attorney