นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้พัฒนามาตรฐานหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตขับรถให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย โดยได้ดำเนินการปรับปรุงเนื้อหาข้อสอบปรนัย ในขั้นตอนการทดสอบภาคทฤษฎีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถทุกคนต้องผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ที่กำหนด
จากเดิมเนื้อหาข้อสอบเน้นทดสอบความจำเกี่ยวกับป้ายสัญลักษณ์ของเครื่องหมายจราจร ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ กรมการขนส่งทางบกได้ปรับปรุงให้เนื้อหาข้อสอบใหม่เป็นข้อสอบเชิงวิเคราะห์มากขึ้น ประเมินความเข้าใจ ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ในการขับขี่ของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถมากขึ้น จะลดสัดส่วนข้อสอบความจำให้เหลือเพียง 10-20% ที่เหลืออีกประมาณ 80-90% จะเป็นเนื้อหาข้อสอบใหม่
“กรมจะเริ่มทยอยนำข้อสอบใหม่เข้าระบบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 และคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2563 โดยข้อสอบยังคงเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ (multiple choices) เหมือนเดิมแต่คำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว มีตัวเลือกตอบจำนวน 4 ตัวเลือก ใช้วิธีการสุ่มคำถาม จำนวน 50 ข้อ จากคำถามที่มีอยู่ในฐานข้อมูลจำนวน 1,000 ข้อ และเกณฑ์การทดสอบยังคงใช้เกณฑ์เดิมที่ใช้ในปัจจุบัน คือต้องได้คะแนนเกินร้อยละ 90 (ผ่าน 45 ข้อจากจำนวนเต็ม 50 ข้อ)”
ทั้งนี้การปรับเนื้อหาข้อสอบในการขอรับใบอนุญาตขับรถครั้งใหม่นี้จะช่วยประเมินการรับรู้เรื่องความปลอดภัยในการขับขี่และความสามารถในการวิเคราะห์แก้ปัญหาในกรณีที่เกิดสถานการณ์กรณีฉุกเฉินบนท้องถนนของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถได้
อย่างไรก็ตาม การทดสอบภาคทฤษฎี เป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการที่ผู้ขอรับใบอนุญาตทุกคนต้องผ่านการทดสอบเท่านั้น กระบวนการเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถยังมีการทดสอบสมรรถภาพของร่างกายเพื่อตรวจสอบว่าเป็นผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์เพียงพอที่จะขับขี่ได้อย่างปลอดภัย การอบรมภาคทฤษฎี เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถมีความรู้เกี่ยวกับกฎจราจร กฎหมายและข้อบังคับต่างๆ การขับรถอย่างปลอดภัย เสริมสร้างวินัยจราจร มารยาทและจิตสำนึกที่ดีในการขับรถ
ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและการให้ความช่วยเหลือและการปฐมพยาบาล การทดสอบภาคทฤษฎี และการทดสอบภาคปฏิบัติหรือการทดสอบขับรถ ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถต้องผ่านกระบวนดังกล่าวด้วยตนเองทุกขั้นตอน ทุกขั้นตอนกรมการขนส่งทางบกดำเนินการอยู่บนพื้นฐานแนวคิดที่ต้องการผู้ขับขี่ที่มีคุณภาพและใส่ใจความปลอดภัยของทั้งตัวเองและผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น การเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อหาข้อสอบจึงเป็นหนึ่งในขั้นตอนการประเมินความรู้ความเข้าใจการขับรถที่ถูกต้องปลอดภัยเท่านั้น ส่วนสำคัญอยู่ที่ผู้ขับขี่ซึ่งต้องตระหนักถึงความปลอดภัยและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจังด้วย