สืบเนื่องจากที่ พ.ต.ท.มณี สาระขันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านไม่มีเลขที่ในเขต ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกุดหว้าจุดอำเภอกมลาไสย หน่วยกู้ภัยเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ ทีมแพทย์ชันสูตรโรงพยาบาลกมลาไสย รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.กมลาไสย โดยเป็นบ้านน็อกดาวน์ 2 ชั้นยกสูง ไม่มีเลขที่บ้าน ด้านหลังบ้านที่ต่อเติมออกมาเป็นห้องน้ำ เจ้าหน้าที่พบศพ พ.ต.ท.จำรัส ดลเจือ อายุ 57 ปี สวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของบ้าน สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นกีฬาสีดำคาดเหลือง สภาพศพศีรษะแตก มีแผลถูกแทงที่คอ หน้าท้อง ตามลำตัว ข้างเอว กว่า 10 แผล จนไส้ทะลัก และที่อวัยวะเพศยังถูกตัดขาดหายไป
ต่อมา พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และ พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย ได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบขวดแก้วที่บรรจุน้ำมันวางไว้บริเวณรอบบ้าน รวมไปถึงรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ 8218 กาฬสินธุ์ ของผู้เสียชีวิต ยังมีร่องรอยของการถูกเผารถ มีขวดแก้วที่บรรจุน้ำมันตกอยู่
โดย พล.ต.ต.สมนึก กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นถึง สวป.สภ.ร่องคำ ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมจึงได้เข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นพุ่งเป้าเรื่องชู้สาว เพราะเท่าที่ดูจุดที่พบศพเป็นด้านหน้าบ้านที่ต่อห้องน้ำออกมา ผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่งออกจากห้องน้ำแต่ไม่ทันระวัง จึงถูกฆาตกรแทง หลังจากที่ฆ่าแล้วยังได้ตัดเจ้าโลกออกไปด้วย ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลุยแกะรอยที่ได้เบาะแสบ้างแล้ว
กระทั่งมีรายงานว่าขณะนี้ ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายอมรลัก จิตเกาะ อายุ 45 ปี ฆาตกรโหดเป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้แล้ว ภายหลังตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดและติดตามอย่างกระชัดชิด จนพบว่าได้หลบหนีเข้าไปในป่าเขตอำเภอสีดา จ.นครราชสีมา จึงได้ทำการกดดันและยอมออกมามอบตัว
ล่าสุด นางพูลศรี อายุ 57 ปี ภรรยา พ.ต.ท.จำรัส อายุ 57 ปี เล่าว่า หลังทราบข่าวรู้สึกตกใจมาก และไม่คิดว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับสามี และที่สำคัญเมื่อมาดูสภาพศพแล้วยิ่งรับไม่ได้ เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายนั้นโหดร้ายเกินไป ซึ่งหากเจ้าหน้าที่จับตัวได้ก็ได้ดำเนินคดีถึงที่สุดและให้ได้รับโทษประหารไปเลย
ที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือทะเลาะกับใครมาก่อน เป็นคนนิสัยและอัธยาศัยดี ซึ่งก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่สภ.กมลาไสย ก่อนจะย้ายไปที่ จ.มหาสารคาม และล่าสุดได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็นสวป.สภ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ได้ประมาณ 2 เดือน
ก่อนเกิดเหตุยังรับประทานอาหารด้วยกันอยู่ จากนั้นก็มาที่บ้านเรือนไทย ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุที่เช่าที่ดินไว้รับซื้อไม้บ้านเก่าขาย แต่อยู่ดีๆ ลูกชายโทรมาบอกว่าพ่อถูกคนฆ่าตายแล้ว ส่วนประเด็นสาเหตุการถูกฆ่าจะมาจากเรื่องชู้สาวหรือเรื่องไหนนั้นตนไม่ขอพูด เนื่องจากไม่รู้รายละเอียดมาก่อน และปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้าน นายประดิษฐ์ อายุ 70 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ ซึ่งห่างกันประมาณ 30 เมตร กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 2 ก.พ.เวลา 21.00 น. ขณะที่ตนกำลังนอนดูข่าวทางทีวีที่บ้านพัก ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้ ซึ่งเป็นกลิ่นคล้ายไฟกำลังไหม้พลาสติก จึงได้ลงจากบ้านพักมามองดู เห็นเปลวไฟกำลังลุกไหม้อยู่บริเวณโรงจอดรถข้างบ้านน็อกดาวน์ของ สวป.ผู้เสียชีวิต จึงได้วิ่งไปดูเห็นไฟกำลังลุกไหม้ล้อหลังด้านขวาของรถของผู้เสียชีวิต
จากนั้นจึงร้องตะโกนให้เพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกเดียวกันมาช่วยกันดับไป และขอร้องให้เพื่อนบ้านโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสยด้วย ประกอบกับเมื่อคืนที่ผ่านมา ในหมู่บ้านมีงานบุญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มารักษาความปลอดภัยด้วย หลังจากได้รับแจ้ง จึงได้มาตรวจที่เกิดเหตุและร่วมกับชาวบ้านช่วยกันดับไฟที่กำลังโหมไหม้รถยนต์คันดังกล่าว ก่อนที่จะลุกลามไหม้โรงรถและบ้านได้รับความเสียหาย
หลังจากควบคุมเพลิงได้แล้วจึงช่วยกันร้องเรียกหาเจ้าของบ้าน ก่อนที่จะพบว่ากลายเป็นศพนอนจมกองเลือดอยู่บนบ้าน และพบว่าตามลำคอ ร่างกาย เต็มไปด้วยบาดแผล และเลือดซึมไหลนองพื้นบ้าน และอวัยวะเพศถูกตัดหายไปดังกล่าว ส่วนสาเหตุถูกคนร้ายฆาตกรรมนั้น ตนไม่รู้
อย่างไรก็ตามพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้เปิดเผยว่า การติดตามฆาตกรชุดสืบสวนทำการแกะรอยตั้งแต่เมื่อคืนซึ่งได้มุ่งประเด็นชู้สาว โดยเบื้องต้นคาดว่าชนวนเหตุอาจมาจากสาวอายุ 20 ต้นๆ ที่เข้ามาพัวพันกับผู้เสียชีวิต แต่จากการตรวจหลักฐานทางโทรศัพท์พบว่า มีการแชทพูดคุยกับสาวอายุประมาณ 40 ปี มีอาชีพเป็นหมอดูในเขตอำเภอกมลาไสย
จึงได้ทำการสืบสวนและพบว่า ผู้ก่อนเหตุคือ นายอมรลัก อายุ 45 ปี มีอาชีพรับจ้างขับรถส่งของในตัวเมืองกาฬสินธุ์ และผลการสืบสวนยังทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้ไปบอกลูกชายว่าจะไปฆ่าคนและจะฆ่าภรรยาตนเอง ซึ่งลูกชายได้โทรไปบอกแม่ จึงหนีรอด แต่ฆาตกรก็ได้ลงมือฆ่า พ.ต.ท.ได้สำเร็จ
แต่ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายอมรลัก ได้แล้ว ภายหลังตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดและติดตามอย่างกระชั้นชิด จนพบว่าหลบหนีเข้าไปในป่าเขตอำเภอสีดา จ.นครราชสีมา จึงทำการกดดันและยอมออกมามอบตัว ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวกลับมาเพื่อรอทำแผนและแถลงข่าวต่อไป