เชื่อว่าหลายๆคนต้องติดใจเธอเป็นเเน่นอนโนเฉพาะหนุ่มๆทั้งหลาย…ที่เคยเห็นเธอผ่านทางจอทีวี ซึ่งสำหรับหมออ้อย เธอก็เป็นตำนานดาวยั่วสุดเซกซี่เลยทีเดียวสำหรับ หมออ้อย จุฑารัตน์ หากหลายคนยังจดจำภาพสมัยก่อนของเธอในลุคสุดส.ยิ.ว แต่งตัวนุ้งน้อยห่มน้อย โชว์อ.ก..สุด.สะ.บึ้.ม เรียกได้ว่าเเซ่บเวอร์จริงๆ
…
…
…
…
หมออ้อย จุฑารัตน์ อัตถากร หรือที่ปัจจุบันเธอเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า เจนี่ แล้วนั่นเอง..ตอนนี้เธอสวยมากแต่ถ้าเรื่องความเซ็กซี่ อันนี้คงต้องบอกว่าเบาลงเยอะมากจริงๆ จ้า และในอินสตาแกรมของหมออ้อย มักจะลงคำคมธรรมะ หรือไม่ก็เดินสายทำบุญนั่นเองลืมภาพเดิมๆไปได้เลย เมื่อ หมออ้อย จุฑารัตน์ เปลี่ยนลุคครั้งใหญ่จากสาวขวัญใจหนุ่มๆ ทั่วประเทศ มาแต่งตัว ด้วยข้าราชการเต็มยศ ไปทำความดีเเจกของที่บริเวณจุดตรวจบริการประชาชน…แม้ว่าชื่อ “หมออ้อย จุฑารัตน์” มักจะมาพร้อมกับภาพลักษณ์สุดเซ็กซี่ แต่ “หมออ้อย” ในวันนี้กลับเลือกเส้นทางชีวิตสายธรรมะที่มุ่งศึกษาหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ่ง พร้อมตั้งจิตมั่นช่วยเหลือเพื่อนสัตว์โลก ทั้งยังถือศีล กินเจ ซึ่งส่วนหนึ่งได้กลายมาเป็นเคล็ดลับความงามของเธอในปัจจุบัน..
…
..
..
..
..
หมออ้อย ได้เปิดใจถึงเส้นทางชีวิตในปัจจุบันที่มีความแตกต่างจากช่วงเวลาอันร้อนแรงในฐานะนักแสดงกับนางแบบเมื่อหลายปีก่อนแทบโดยสิ้นเชิง โดยได้เผยถึงประเด็นนี้กับรายการ “บางกอกซิตี้เลขที่ 36” เอาไว้ว่า“สำหรับการเข้ามาศึกษาธรรมะตรงนี้ พี่ไม่ได้มองว่าเราเปลี่ยนอะไรนะคะ ภาษาธรรมะจะเรียกว่า เป็นการเอาของเก่ากลับมาใช้ แต่ว่ามาช้าไปหน่อย จริงๆ ควรจะมาตั้งแต่อายุน้อยๆ เราจะได้มีวิธีการใช้ชีวิตที่ดีกว่านี้”
จริงๆ พี่เป็นคนชอบธรรมะมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ว่าไม่รู้ตัว ตอนเด็กๆ ชอบเข้าวัดทำบุญกับคุณแม่ ขอให้ชวน ชอบไป แต่ตอนนั้นยังทำบุญผิดวิธี เป็นพาณิชย์บ้าง แต่พอเรามาศึกษาธรรมะ อยากรู้ว่า จริงๆ แล้วบุญคืออะไรแล้วพระพุทธเจ้าที่คนบอกว่าท่านเก่งมากนี่ แล้วธรรมะเองก็คือธรรมชาติ ธรรมชาติคือต้นไม้ใบหญ้าไหม ก็อยากรู้ พออยากรู้ จะไปบวชเพื่อศึกษาเปรียญก็ไม่ได้ ก็เลยศึกษาจากการเข้ายูทูบก่อน พอรู้เบสิค ไปปฏิบัติธรรม
ทีแรกไปเพราะแฟชั่น ดาราไปกันเต็มเลย 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เป็นคนดีอยู่แล้ว แต่อาจจะดีไม่ถูกทาง ดีแบบเฉซ้ายเฉขวา ตอนนี้อยากดีแบบสายตรง เนี่ยเราวางทางไว้ให้ว่าจะไปเชียงใหม่ แต่พี่จะแวะดิตถ์ แวะแพร่ แต่ตอนนี้ตั้งมั่นขอบินตรงไปเชียงใหม่เลย”ไม่เพียงเท่านั้น ปัจจุบัน “หมออ้อย” ยังได้ตัดสินใจเลิกกินเนื้อสัตว์ นอกจากนั้นยังตั้งความหวังที่จะช่วยเพื่อนสัตว์โลกให้ได้มากที่สุดอีกด้วย
คือตั้งจิตไว้เลยว่าจะช่วยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะช่วยได้ และความที่เป็นคนรักหมาแมวมาก หมาแมวเป็นสัตว์ที่อยู่ใกล้มนุษย์ที่สุด แล้วก็มีสมองพอจะรับรู้ความเอื้ออาทรที่คนมีต่อน้องหมาพอเจอน้องไม่สบาย ก็จะเอาไปโพสต์ในเพจตัวเอง เดี๋ยวพี่จ่ายค่ารักษาให้เอง แล้วพี่จะไปเยี่ยม หรือ ระดมทุนช่วยเรื่องค่าอาหารสัตว์ก็ทำมาเรื่อยๆ ก็จะมีคนให้ข้อมูลมาเยอะเลย แต่เราก็ไม่ได้บอกใครเยอะว่าทำตรงนี้ เพราะเดี๋ยวจะมีพวก 18 มงกุฏมาพี่ไม่สามารถไปแยกแยะได้ เราเลยทำแบบเงียบๆ ทำมา 3-4 ปี เริ่มช่วยหมาแมว ก็เริ่มวิปัสสนา ทุกอย่างเหมือนเป็นอัตโนมัติ กัลยาณมิตรก็จะมีเพิ่มขึ้นมา