บนโลกนี้มีเรื่องให้คุณท้าทายอยู่มากมาย และหากคุณคิดว่าชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ท้าทายพอล่ะก็ คุณอาจมาลองรับคำท้านี้แถมยังอาจได้รางวัลกลับบ้านไปอีกด้วย ว่าแต่คุณจะกล้าหรือเปล่า
ย้อนกลับไปในปี 2016 มีชาวบ้านพบเห็นจระเข้ตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำในเมืองปาลูบนเกาะซูลาเวซี ประเทศอินโดนีเซีย มียางรถจักรยานยนต์คล้องคออยู่ ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของจระเข้ตัวนี้ว่ามันเข้าไปติดในห่วงยางได้อย่างไร แต่ที่แน่ ๆ ไม่มีใครกล้าพอที่จะไปเอายางเส้นนี้ออกจากคอของมันได้สักคน
หลังจากเวลาผ่านไป 2 ปี จระเข้ตัวนี้เริ่มโตขึ้นจนมีความยาวถึง 4 เมตร นั่นเป็นเหตุให้ มูฮัมหมัด พานจี นักอนุรักษ์สัตว์ป่าได้พยายามถอดยางเส้นนี้ออกแต่ก็ไร้ผล และในปีต่อมา เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหลายคนพยายามเอาอาหารมาล่อจระเข้เพื่อถอดยางที่คอของมันออก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
จนถึงปัจจุบันนี้ ถึงแม้มันจะปรากฏตัวให้ชาวบ้านพบเห็นในแม่น้ำของเมืองปาลูอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มีผู้กล้าคนไหนที่ช่วยเหลือมันได้ จนเจ้าหน้าที่ของเมืองได้ประกาศว่า พวกเขาจะมอบรางวัลเป็นเงินสดให้กับใครก็ตามที่สามารถถอดยางรถจักรยานยนต์เส้นนี้ออกได้
ฮัสมุนี ฮัสมาร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ของซูลาเวซีกล่าวว่า เขาไม่ได้ขอให้มือสมัครเล่นมาล่าจระเข้และทำอันตรายต่อชีวิตของมัน แต่เขาขอให้ใครก็ได้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือสัตว์ป่ามาทำภารกิจในครั้งนี้
“เรากำลังขอให้ประชาชนทั่วไป อย่าเข้าใกล้จระเข้หรือไปรบกวนถิ่นที่อยู่อาศัยของมัน” ฮัสมุนีกล่าว
สำนักข่าว Antara ได้รายงานว่า จระเข้ตัวนี้อาจเป็นจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์สยามที่มีต้นกำเนิดอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมันเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ และมีหลงเหลืออยู่ในป่าประมาณ 1,000 ตัวเท่านั้น
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจคิดว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ยิงปืนยาสลบเพื่อที่จะเอายางรอบคอออกได้ง่าย ๆ ในขณะที่มันหลับ แต่จากรายงานระบุว่า มันมีความเสี่ยงสูงที่จระเข้จะว่ายน้ำหนีไปก่อนที่ยาสลบจะออกฤทธิ์ ดังนั้นพวกเขาต้องการคนที่สามารถตรึงจระเข้ตัวนี้ไม่ให้ขยับได้เพื่อที่จะเอายางออกจากคอของมันทันที
“ร่างกายของมันกำลังใหญ่กว่ายางที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 14 นิ้ว ถ้ายางรถยังไม่ถูกเอาออกในเร็ววันนี้ มันจะรัดคอจระเข้อย่างแน่นอน” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าว
ส่วนที่มาของยางเส้นดังกล่าวเชื่อว่ามาจากรถมินิสกูตเตอร์ที่ถูกโยนทิ้งลงไปในแม่น้ำ และโชคร้ายที่มันบังเอิญเข้าไปติดอยู่ที่คอของจระเข้มานานหลายปีแล้ว ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า มนุษย์เรากำลังทำในสิ่งที่โหดร้ายต่อธรรมชาติมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
สุดท้ายนี้ ถ้าหากคุณคิดว่าตัวเองมีทักษะการรับมือกับจระเข้เหมือนกับ สตีฟ เออร์วิน ล่ะก็ คุณอาจแพ็คกระเป๋าเดินทางไปยังเมืองปาลูเพื่อขอคุยกับเจ้าหน้าที่ และคุณอาจกลายเป็นฮีโร่ที่สามารถปลดปล่อยมันให้เป็นอิสระก็เป็นได้