ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เมื่อเวลา 21 00 น ของวันที่ 4 ก พ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี เเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เเถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ถึงภาพรวมการรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ว่ามีคนไทยเดินทางกลับ จำนวน 138 คน มี 3 รายที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย
โดย 2 ราย ทางการจีนตรวจพบว่ามีไข้สูง ซึ่งมาตรฐานมีการกำหนดไว้ไม่เกิน 37 องศา เเต่ 2 คนดังกล่าวตรวจวัดได้ 37 องศา ทางการจีนจึงได้กักตัวไว้ เเละไม่ได้เดินทางมาด้วย เเต่ทั้ง 2 คน ได้รับการดูเเลเป็นอย่างดีจากทางการจีน รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตคอยดูเเลด้วย ส่วนอีก 1 คน ที่ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วยเนื่องจากวีซ่าขาด
ซึ่งการนำคนไทยกลับบ้านในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกองทัพเรือ ที่อำนวยความสะดวกในทุกๆ ด้าน เเละกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ยืนยันว่าที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ต้องรอก็เนื่องด้วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
ส่วนทางด้าน นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ก่อนหน้านั้นมีคนไทยลงทะเบียนขอกลับประเทศจำนวน 160 คน เเต่วันนี้มี 141 คน เดินทางมาที่สนามบินอู่ฮั่น เเต่ไม่ผ่านการคัดกรอง 3 ราย เป็นนักศึกษา 2 ราย ชาย 1 ราย หญิง 1 ราย ทั้งคู่อายุอายุ 24 ปี อุณหภูมิสูงเกินเกณฑ์ เเต่ถือว่าไม่สูงจนถึงขั้นไปโรงพยาบาล ทางการจีนจึงให้กักตัวเองอยู่ที่บ้าน 14 วัน ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก โดยทางการจีนจะส่งเจ้าหน้าที่ไปดูเเล
ส่วนอีก 1 ราย เป็นชาย วีซ่าขาด เนื่องจากอยู่ประเทศจีนเกินระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งทั้ง 3 คน เสียใจที่ไม่ได้เดินทางกลับบ้าน เเต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎของจีน ซึ่งรัฐบาลทำดีที่สุดเเล้ว และได้มอบเวชภัณฑ์พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่นหน้ากากอนามัยจำนวน 4 ตัน ไปมอบให้ทางการจีน โดยรองขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประจำมณฑลหูเป่ย เป็นตัวเเทนรับ
ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเครื่องบินลงที่สนามบิน ทางทีมแพทย์นั่งรถเข้าไปตรวจสุขภาพผู้โดยสารทั้งหมด ที่กลับจาก อู่ฮั่น ซึ่งหลังจากตรวจคัดกรองโรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากพบว่า ไม่มีอาการป่วย จะถูกส่งตัวไปที่อาคารรับรองที่ อ สัตหีบ จ ชลบุรี หากพบ มีอาการป่วย จะพาไปโรงพยาบาลอาภากร เพื่อตรวจสุขภาพและกักไว้ 14 วัน เพื่อรอดูอาการ