เล่าประสบการณ์ชีวิตแม่ค้าขายส้มตำ จากข้าราชการ สู่แม่ค้าเพื่อรายได้สุดมั่นคง
ค่านิยมอย่างหนึ่งในประเทศไทย ที่ยังคงมีอยู่และยากจะหมดไป คือ เรามักจะยกย่องคนที่ทำงานเป็นข้าราชการ ทำงานบริษัท มียศมีตำแหน่ง ส่วนอาชีพอื่นๆมักจะถูกมองข้าม ทั้งที่บางครั้ง หลายๆอาชีพก็สามารถช่วยให้
คนเราก่อร่างสร้างตัวได้ อย่างเช่นเรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Apisit Phimpet ที่ได้ออกมาเผยเรื่องราวของแม่ค้าส้มตำท่านหนึ่ง ที่ผันตัวจากข้าราชการครู สู่การเป็นแม่ค้าส้มตำ ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเขาได้
เล่าว่า… มื่อเช้าแว่ะเซเว่น..แล้วก็แวะซื้อข้าวเหนียวกับปลาดุกย่าง..ระหว่างที่รอแม่ค้าอุ่นปลาดุกย่างให้.ก็มีโอกาสได้พูดคุยกันจึงรู้ว่าแกมาจาก จ.ร้อยเอ็ด อ.สุวรรณภูมิ แกเล่าให้ชีวิตฟังว่าแก จบ ป.ตรี สังคมศาสตร์มาและ
แต่งงานก็มีครอบครัวมีลูก4 คน แต่สามีแกดันประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในระหว่างที่ลูกๆยังเล็กอยู่ ช่วงนั้นเป็นครูอัตราจ้างเงินเดือนน้อยไม่พอเลี้ยงลูกๆเลยตัดสินใจลาออกจากงานมาขายไกย่างส้มตำแทน..พอเห็นแก่เล่า
ให้ฟังแบบนี้เราก็เลยถามด้วยความสงสัยว่า แม่ขายแบบนี้กำไรเยอะได้ไหม…คำตอบที่ได้ก็สุดทึ่ง วันละ 2500 -3500 บ. ได้อยู่ แก่ก็เล่าต่อว่าก็ได้รายได้จากการขายไก่ย่างส้มตำนนี้แหละได้ซื้อบ้านหลังละ 2.5 ล้านไว้ที่
สระบุรี ได้ซื้อรถราคา 7 แสนไว้ให้ลูกๆ และซื้อที่นาไว้ที่บ้าน อ.สุวรรณภูมิ กว่าร้อยไร่ ได้ข้าวปีละ 40-50 ตัน.. เราได้ฟังก็อึ้งไปสักพัก…แก่ก็บ่นอยากกลับเป็นนะราชการอยากแต่งตัวสวยๆ..มีสวัสดิการดีๆ..นะแต่คิดไปคิดมา
มีกินกับมีเกียรติ แม่เลือกมีกินดีกว่า..ได้คุยกับแกเมื่อเช้าทำให้เราฉุดคิดขึ้นหลายๆเรื่องในหัวเลย… เรื่องหนึ่งที่ทำคิดได้คือ.. “แม้จะจบสูงจบต่ำ..หรือจะทำอาชีพอะไรก็ตามทุกอาชีพล้วนมีเกียรติและศักดิ์ศรีในตัวของมัน
เอง” ไม่ว่าจะอาชีพไหน ต่างก็มีเกียรติด้วยกันทั้งสิ้น ทุกๆอาชีพสามารถสร้างตัวเอง สร้างความมั่นคงให้ตัวเองได้เหมือนกันทั้งสิ้น ซึ่งบางครั้งอาชีพที่หลายคนมองว่าต่ำต้อย อาจจะมีความสุขมากก็ได้