นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีหน้ากากอนามัยจำนวน 2 ล้านชิ้น เพื่อกระจายให้กับร้านค้าธงฟ้าที่มีอยู่ทั่วประเทศ120,000ร้านค้า กรมจะกระจายเข้าร้านธงฟ้าที่สมัครใจเข้ามาซึ่งมีอยู่ประมาณ 4,000ร้านค้า และยังจะกระจายไปยังร้านค้าทั่วประเทศ แห่งละ 2,000-3,000 ชิ้น รวมทั้งร้านค้าทั่วไป ที่อยู่ในพื้นที่ที่ประชาชนมีความต้องการและเสี่ยงสูงเช่น โรงพยาบาล พนักงานในธุรกิจบริการ ต่าง ๆ โดยกำชับให้จำหน่ายไม่เกิน 10 ชิ้นต่อคน นอกจากนี้ในเวลา 9.00 น.วันที่ 8 ก.พ.นี้ ที่ลานเอนกประสงค์ชั้น 3 กระทรวงพาณิชย์
จะจัดให้มีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยชิ้นละ 2.50 บาท รวมกว่า 5 แสนชิ้น โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานเปิดงาน ซึ่งจะทำให้สถานการณ์การขาดแคลนหน้ากากอนามัยคลี่คลายลงบ้าง เพราะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนาก็ทำให้โรงงานผลิตไม่ทันกับความต้องการเนื่องจากประชาชนต้องการซื้อทีละมาก ๆจนเกินความจำเป็น
โดยคาดว่าหลังจากนี้ 2 สัปดาห์ผู้ประกอบการก็น่าจะปรับตัวได้ และเริ่มผลิตสินค้าออกมาได้พอกับความต้องการใช้ของประชาชน อย่างไรก็ตาม ก็ขอแจ้งไปยังประชาชนอีกครั้งว่าไม่มีความจำเป็นต้องซื้อหน้ากากไปตุนเกินความจำเป็น เพราะที่ผ่านมาสินค้าหน้ากากอนามัยไม่ใช่สินค้าที่จำเป็นที่ต้องซื้อทุกวัน ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ได้มีสต็อกสินค้าในปริมาณมาก ๆ แต่จะผลิตแค่พอจำหน่าย หรือผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้าเท่านั้น ซึ่งต้องเข้าใจผู้ประกอบการด้วยว่าที่ผ่านมาผู้ประกอบการในธุรกิจดังกล่าวก็ประสบปัญหาขาดทุนมาพอสมควร บางรายก็เลิกกิจการ บางรายก็ขายเครื่องจักรเพื่อลดกำลังการผลิตและต้นทุนของโรงงานลง แต่เมื่อมีการระบาดของไวรัสโคโรนาทำให้ความต้องการใช้พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้โรงงานปรับการผลิตไม่ทัน
“หลังจากที่กรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) ได้กำหนดหนดมาตรการให้ผู้ผลิตผู้จำหน่าย หรือผู้จัดจำหน่าย และผู้ที่นำเข้าผู้ที่ส่งออกแจ้งข้อมูลการผลิต ต้นทุนการผลิต การครอบครอง การจำหน่าย การกระจายสินค้า ก็มั่นใจว่าจะทำให้หน้ากากอนามัยและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการระบาดของไวรัสหาซื้อได้ง่ายขึ้น ซึ่งในวันนี้(6ก.พ.) กำหนดให้ผู้ประกอบการแจ้งข้อมูลก็น่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น” นายวิชัย กล่าว