เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า “ฟินน์ เซ็ตเทิล” ชายหนุ่มอังกฤษวัย 25 ปี ได้ออกมาบอกเล่าประสบการณ์สุดสะพรึงที่เขาต้องเผชิญ
ขณะเข้ารับการผ่าตัดไส้ติ่งเมื่อปี 2559 หลังจากที่ความประมาทของพยาบาลเป็นผลให้เขารู้สึกตัวขึ้นมาระหว่างการผ่าตัด รับรู้ได้ทุกอย่าง แต่ไม่สามารถขยับตัวหรือสื่อสารได้ และต้องทนรับความเจ็บปวดรุนแรงที่เสียดแทงมายังช่วงท้อง ซึ่งแม้เหตุการณ์จะผ่านไปแล้วแต่มันยังคงเป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขาอยู่จนถึงขณะนี้
ฟินน์ เซ็ตเทิล เปิดเผยว่า ทุกอย่างเริ่มขึ้นจากนางพยาบาลชาวต่างชาติรายหนึ่งที่มีหน้าที่ดูแลเขาก่อนผ่าตัด เธอคนนั้นพูดภาษาอังกฤษได้เพียงเล็กน้อย ทำให้เกิดอุปสรรคด้านการสื่อสาร
อีกทั้งเธอคนนั้นก็ไม่ได้ทำการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงของเขา ทำให้ท้ายที่สุดเธอก็จดน้ำหนักของเขาเบากว่าน้ำหนักจริงไปถึง 19 กิโลกรัม การบันทึกน้ำหนักที่ผิดพลาด นำไปสู่การคำนวณยาสลบที่ไม่ถูกต้อง ฟินน์ได้รับยาสลบในปริมาณที่น้อยเกินไป ทำให้เขาเกิดรู้สึกตัวขึ้นมาระหว่างการผ่าตัด และต้องพบกับประสบการณ์สุดสยอง
ซึ่งเขาได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นรอบตัว รู้สึกได้ถึงการบีบตัวของอุปกรณ์ และความเจ็บที่เสียดแทงเข้ามายังท้องของเขา เขารู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เขารู้สึกตัวและรับรู้ได้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถบอกให้ศัลยแพทย์รู้ได้ ถึงเขาจะมีสติแต่ร่างกายของเขาคล้ายกับเป็นอัมพาต เขาพูดไม่ได้ ลืมตาไม่ได้ และยังขยับไม่ได้ เขาพยายามจะขยับเปลือกตา กระดิกนิ้วมือนิ้วเท้า แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
ทั้งนี้ เขายังบอกอีกว่า ท้ายที่สุดฟินน์ก็ตัดสินใจปัสสาวะออกมาบนเตียงผ่าตัด เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ในตอนนั้น ซึ่งในที่สุดความพยายามของเขาก็สำเร็จ ทีมแพทย์ในห้องผ่าตัดรู้จนได้ว่าคนไข้ของพวกเขารู้สึกตัวแล้ว เขาจึงถูกทำให้หมดสติไปอีกครั้ง
กระทั่งการผ่าตัดเสร็จสิ้น แม้เขาจะกลับไปทำงานได้ตามปกติ แต่อีก 1 สัปดาห์ต่อมา เขาก็ต้องทนทรมานจากสภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง ซึ่งส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมาก เขาต้องมีปัญหาด้านการนอนหลับอยู่นานเป็นปี เผชิญกับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนในทุกคืนวัน เขามักจะหายใจไม่ออกตอนนอน ทุกสิ่งเป็นเพราะประสบการณ์เลวร้ายจากการผ่าตัดในครั้งนั้น