จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่อาวุธปืนไล่กราดยิงชาวบ้าน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 รายและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดในเขตสภ.โพธิ์กลาง และยังก่อเหตุต่อเนื่องในเขตเมืองหัวทะเล ก่อนที่ขับรถหนีเข้าไปในห้างเทอร์มินอล 21 ในตัวเมืองโคราช ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังปิดล้อม
เบื้องต้น ทราบว่า คนก่อเหตุเป็นทหารยศจ.ส.อ.ได้ใช้อาวุธปืนยิงทหารเสียชีวิต 2 นาย ในหมู่บ้านถนนหัก กลางเมืองนครราชสีมา และมีผู้บาดเจ็บ 1 นาย เป็นทหารเช่นกัน ก่อนขับรถฮัมวี่ ใช้ปืนเอชเคกราดยิงยิงชาวบ้านอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้มีเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ 10 กว่าราย
ขณะที่เฟชบุ๊ก Korat Next Step โพสต์รายงานสถานการณ์ว่า #ข่าวด่วน #ไล่ยิงคนกลางถนน เตือนภัยเขตเมืองโคราช !! เหตุไล่ยิง
คนร้ายใช้อาวุธสงคราม #ล้อมปิดเทอร์มินอล 21 โคราช เตือนภัย ผู้ร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงประชาชน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ ในเขต สภโพธิ์กลาง และมาก่อเหตุต่อเนื่องในเขตเมือง/หัวทะเล ตร. และประชาชนได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้เมื่อเข้าไปตรวจสอบในโซเชียลมีเดียพบว่าสิบโทคนนี้มีชื่อว่า จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ซึ่งเข้าได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jakrapanth Thomma ทั้งยังได้โพะสต์ข้อความสุดท้ายก่อนก่อเหตุลงมืออีกว่า ” ยังไงก็หนีความตายไม่พ้นทุกคน”
นอกจากนี้ มทภ.2 ยังเปิดเผยว่าทหาร-ตำรวจระดมกำลังล่า จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา สังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุยิงพ.อ.อนันตโรจน์ กระแสร์ นายทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ พร้อมด้วยหญิง อายุ 63 ปี และพลทหาร รวม 3 คน เสียชีวิต และมีอดีตนายทหารเกษียณอายุราชการ และพลทหารบาดเจ็บหลายคน
ทั้งนี้เหตุการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ก่อเหตุกราดยิงภายใน จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 12 ราย ตรวจสอบพบ คนร้ายใช้อาวุธปืน H.K.3กระบอก กระสุน 800นัด ,ปืนM60 1กระบอก กระสุน 200นัด นอกจากนี้มีการโพสต์คลิปวิดีโอ ระบุ “เหนื่อยแล้ว กระดิกนิ้วไม่ไหวแล้ว” อีกด้วย
พร้อมกันนี้ยังมีโพสต์ล่าสุดตามมาอีกหลายโพสต์ในเชิงทำนองที่ว่าจะยอมอ่อนข้อลง เช่น “ซวยล่ะ เป็นตะคริว” และ “ยอมแพ้ดีมั้ยนะ”
กระทั่ง เพจเฟซบุ๊กของวาสนา นาน่วม ได้โพสต์อัพเดตเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวว่า ““บิ๊กแดง” สั่ง ด่วน “บิ๊กนัย”รบพิเศษ ลงพื้นที่ โคราช ….คลี่คลาย สถานการณ์”จ่า” ยิง “ผู้พัน” แถมยิงกราด ประชาชน เจ็บตาย เพียบ!
บิ๊กแดง พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. สั่งการให้ บิ๊กนัย พลเอก สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งเป็น นายทหารรบพิเศษ ที่ เคยร่วมคลี่คงายคดีปล้นทองที่ลพบุรี ลงพื้นที่
รวมทั้ง บิ๊กอิ๊ด พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมกับตำรวจ มนการติดตามจับคนร้าย ที่เป็นทหาร”
ต่อมาในทวิตเตอร์ได้จับภาพคนร้ายได้ซึ่ง มันเปลี่ยนชุด แล้วยืนเล่นโทรศัพท์ อย่างชิว แต่แล้วก็มีชาวทวิตคนหนึ่งมาขอให้หยุดแชร์ภาพนี้ เนื่องจากเขาไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นตำรวจหนึ่งในผู้ที่เข้าไปร่วมระงับการก่อเหตุ
จากนั้นไม่นานมีรายงานว่า ตอนนี้คนร้าย #กราดยิงโคราช ขึ้นชั้น 4 เทอร์มินัล 21 จับตัวประกัน 16 คน หน่วยรบพิเศษกำลังเข้าพื้นที่
ล่าสุดตร.สภ.เมืองชัยภูมิ รับตัวแม่ทหารมือกราดยิง จากบ้านในตัวเมืองชัยภูมิ สู่จังหวัดนครราชสีมา แม่ปล่อยโฮเมื่อทราบข่าวลูกชายก่อเหตุกราดยิงโคราช
โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @oizinet ได้โพสต์บันทึกคาดการณ์สาเหตุเบื้องต้นคือสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุไปทวงเงินค่านายหน้าค่าซื้อที่ดินโดยผู้ก่อเหตุมาทวงค่านายหน้าจึงตกลงกันไม่ได้จึงได้ก่อเหตุดังกล่าวซึ่งจะได้ดำเนินการสอบสวนต่อไป
ในบันทึกนั้นระบุข้อความว่า “เรียน ผู้บังคับบัญชา
รายงานเหตุเบื้องต้น
เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 15.00 น.
ผู้เสียชีวิต
ผู้บาดเจ็บที่นำส่ง โรงพยาบาลมหาราช
ผู้ก่อเหตุคือ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา อยู่สังกัดเดียวกันกับผู้ตาย
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ๒๕๖3 เวลาประมาณ 15.30 น. ในขณะที่ พ.ต.ท.มงคล คุปติศิริรัตน์ สว.(สอบสวน) ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรอยู่ที่สถานีตำรวจได้รับแจ้งเหตุทางวิทยุ ว่ามีเหตุคนร้ายยิงผู้อื่นเสียชีวิตอยู่ที่ บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ ผู้เสียชีวิต 1. พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส และ 2. นางอนงค์ มิตรจันทร์ หลังประกอบเหตุได้ไปแย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ ที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และใช้อาวุธ ยิงทหารเวรจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้ขับรถฮัมวี่ของทหาร หลบหนี ออกด้านหลังค่าย หลบหนีไปทางวัดป่าศรัทธารวม และได้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ที่มาสกัดจับ จนได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย และกระสุนถูกชาวบ้านใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ขณะนี้ผู้ก่อเหตุกำลังอยู่ระหว่างหลบหนี
สาเหตุเบื้องต้น สันนิษฐานว่า เกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุไปทวงเงินค่านายหน้าค่าซื้อขายที่ดิน โดยผู้ก่อเหตุมาทวงค่านายหน้า จึงตกลงกันไม่ได้จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป”