พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 – 15 กุมภาพันธ์ 2563
การคาดหมาย ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน หลังจากนั้นจะมีอากาศหนาวเย็นลง บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 3-6 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 15 ก.พ. 63 บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง และมีหมอกในตอนเช้า สำหรับภาคใต้ในช่วงวันที่ 9 – 12 ก.พ. 63 มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 13 – 15 ก.พ. 63 ภาคใต้จะมีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังอ่อนลง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งไว้ด้วย รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 9 – 12 ก.พ. 63 ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 9 – 15 ก.พ. 63 จะมีคลื่นอากาศในกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง โดยมีลูกเห็บตกบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ในระยะแรก หลังจากนั้น จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง โดยในช่วงวันที่ 11 – 15 ก.พ. 63 ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง และมีหมอกในตอนเช้า สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 9 – 12 ก.พ. 63 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 13 – 15 ก.พ. 63 ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง
ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งทางตอนบนของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 13-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-15 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 5-10 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 15 ก.พ. 63 อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 10-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียสบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากทางตอนบนของภาคในระยะแรกหลังจากนั้น อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 12-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 15 ก.พ. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งทางตอนล่างของภาคในช่วงวันที่ 13-15 ก.พ.63อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 15 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่งและอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส มีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วนในช่วงวันที่ 11 – 15 ก.พ. 63 มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 9 – 12 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งทางตอนล่างของภาคตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรอุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียสส่วนในช่วงวันที่ 13 – 15 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทาตอล่างของภาคตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 9 – 12 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ส่วนในช่วงวันที่ 13 – 15 ก.พ. 63 มีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียสลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.พ. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้าและมีลมแรงอุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ส่วนในช่วงวันที่ 11 – 15 ก.พ. 63 มีหมอกในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.