ทำเอาชาวบ้านหลอนกันไปตามๆ กัน เนื่องจากช่วงนี้มีเหตุการณ์ที่สุดสะเทือนใจเกิดขึ้นกับประเทศไทย ซึ่งช่วงนี้คนไทยจำเป็นต้องให้กำลังใจกันอย่างมาก เว้นแต่จะมีคนบางกลุ่มที่ไม่คำนึงถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน ทั้งยังป่วนเจ้าหน้าที่ให้โกลาหลหนักไปกันใหญ่ เช่นเดีนกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ที่ เจ้าหน้าที่สามารถจับพระโทรป่วน 191 ลอบวางระเบิดโรงแรมพื้นที่ขอนแก่นไว้ได้
โดย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ควบคุมตัวพระสันติสุข ศรีล้อม อายุ 30 ปี พระลูกวัดแสงสว่างอารมย์ อ.แวงใหญ่ หรือ นายสันติสุข ศรีล้อม อายุ 30 ปี มาทำการสอบสวนในข้อหารู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด ตามมาตรา 173 หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในอ.แวงใหญ่ ก่อนควบคุมตัวมาทำการสึกที่วัดโนนทัน เขตเทศบาลนครขอนแก่น
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่นได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ว่า มีชายไม่ทราบชื่อโทรศัพท์เข้ามาที่ศูนย์ 191จะมีเหตุลอบวางระเบิดเกิดขึ้นภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นและได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุตามโรงแรมในแห่งในเมืองขอนแก่น โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณรอบตัวอาคารทั้งด้านนอกและด้านใน รวมทั้งได้สอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโดยละเอียด ก็ไม่พบวัตถุต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้งแต่อย่างใด จึงน่าเชื่อว่าชายรายนี้โทรมาเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนเกิดความหวาดวิตกหรือทำให้เกิดความหวาดกลัว
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น จึงทำการตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของชายที่โทรมาแจ้ง จนทราบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของนายสันติสุข ซึ่งบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแสงสว่างอารมณ์ บ้านโนนใหญ่ ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น หลังทราบตัวบุคคลที่ชัดเจน จึงได้ลงพื้นที่ทำการจับกุมตัว พระสันติสุขหรือนายสันติสุข พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และควบคุมตัวมาที่ สภ.เมืองขอนแก่นเพื่อทำการสอบสวนทันที” พ.ต.อ.ปรีชา กล่าว
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่าจากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้โทรศัพท์เข้าไปแจ้งเหตุที่ศูนย์ 191 จริง เพียงเพราะต้องการสร้างสถานการณ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระวังตัวเท่านั้นที่ทำไปเพราะลืมตัวคึกคะนอง ภายหลังการสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด ตามมาตรา 173 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000บาท ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป