วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 63 บรรยากาศที่บ้านเกิดของ นายอธิวัฒน์ พรมสุข หรือน้องเดียร์ อายุ 18 ปี นักศึกษา ปวช ปี 3 วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 6 ต หนองโดน อ ลำปลายมาศ จ บุรีรัมย์ ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวและญาติพี่น้อง และเตรียมประกอบพิธีน้ำหลวงอาบศพช่วงค่ำวันนี้
นายปิยะนนท์ พรมสุข หรือน้องเดิม อายุ 24 ปี พี่ชายน้องเดียร์ เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวว่าเกิดเหตุการณ์ยิงกันในห้างเทอร์มินอล ซึ่งแม่ทำงานอยู่ในนั้น ก็ได้โทรไปสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แม่บอกว่าออกมาได้แล้วปลอดภัยดี แต่มาทราบทีหลังว่าน้องชายก็ติดอยู่ในห้างดังกล่าวด้วย จึงได้แชตไปสอบถามน้องชายช่วงเวลา 21 47 น และบอกให้น้องซ่อนตัวดี ๆ จากนั้นประมาณเที่ยงคืนครึ่งน้องก็ตอบกลับมาว่ายังปลอดภัยดี ตนก็ถามว่าอยู่ชั้นไหนน้องบอกว่าอยู่ชั้น LG อยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 คน และน้องเป็นคนที่ดึงประตูห้องเย็นเอาไว้เพื่อไม่ให้คนร้ายเข้ามา
ซึ่งน้องได้ส่งรูปไปในกลุ่มเพื่อนด้วย จากนั้นประมาณตี 1 เศษน้องบอกว่ามันยิงอีก ตนก็บอกให้น้องหลบดี ๆ โดยได้แชตคุยกันตลอด กระทั่งตี 4 เศษ ๆ ตนทักแชตไปถามอีกว่าเป็นยังไงบ้าง แต่น้องก็ไม่ตอบอีกเลย ซึ่งตนก็ภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองน้องให้ปลอดภัย กระทั่งมาทราบข่าวอีกทีว่าน้องถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ยอมรับรู้สึกช็อกและไม่อยากจะเชื่อว่าน้องถูกยิงเสียชีวิต รู้สึกภูมิใจในตัวน้องชาย ที่เด็กคนหนึ่งได้เสียสละชีวิตตัวเองแต่สามารถช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์ได้อีกหลายชีวิตให้รอดปลอดภัย แต่หากเลือกได้ก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกความชื่นชมที่ยกให้น้องเป็นฮีโร่ และทุกกำลังใจที่มีให้ครอบครัว
จากการสอบถาม นางสาว แนน แฟนสาวนายอธิวัฒน์ หรือเดียร์ อายุ 18 ปี ซึ่งนางสาวแนน เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงที่ขาขวา ได้รับการผ่าตัดและปลอดภัยแล้ว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนและนายอธิวัฒน์เดินทางไปที่ห้างเทอร์มินอล เพื่อไปทำธุระด้วยกัน แต่หลังจากที่ไปถึงห้างมีคนที่นั่งอยู่ภายในฟู้ดแลนด์ ตะโกนขึ้นมาว่ามีเหตุคนยิงกัน กระทั่งเห็นคนก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงมาจนถึงบริเวณด้านหน้าฟู้ดแลนด์ ตนและนายอธิวัฒน์ จึงพยายามหาที่ซ่อนตัวโดยวิ่งเข้าไปที่บริเวณห้องเก็บของด้านหลังของฟู้ดแลนด์แล้วพยายามหาที่หลบ จากนั้นหันไปห้องเย็นมีคนซ่อนตัวอยู่ 8 คน จึงเข้าไปรวมอยู่กับคนอื่น และในจำนวนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่ง คือนางสาว กรรณิการ์ การบรรจง หรือแต้ม อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นพนักงานของฟู้ดแลนด์ ถูกยิงเข้าที่มือขวา เลือดไหลไม่หยุด นายอธิวัฒน์จึงตัดสินใจถอดเสื้อยืดด้านใน เพื่อพันมือห้ามเลือดให้กับนางสาว กรรณิการ์
หลังจากที่นายอธิวัฒน์และตัวเองติดอยู่ภายในห้องเย็นตั้งแต่ 16 00 น จนถึง 08 00 น ของอีกวัน นายอธิวัฒน์ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลประตูยังคงดึงประตูเอาไว้ เพื่อไม่ให้โจรเปิดได้ ท่ามกลางอุณภูมิ 5 องศา เพราะทุกคนต่างหน้าแดงจมูกแดง มีน้ำมูกไหล รวมทั้งความหนาวเย็นก็ทำให้มือเริ่มแข็งไม่สามารถที่จะพิมพ์โทรศัพท์โต้ตอบกับคนภายนอกได้เหมือนช่วงแรก แต่คนที่ไม่ยอมแพ้คือนายอธิวัฒน์ ยังคงปกป้องประตูเพื่อไม่ให้โจรเข้ามาด้านไหนได้ ส่วนตัวพยายามถามนายอธิวัฒน์ตลอดเวลาว่า เหนื่อยไหม ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบว่า ไม่เหนื่อย ยังไห
จนกระทั่งช่วงสายมีคนมาเคาะประตูห้องเย็น แต่ไม่ได้เป็นจังหวะหรือสัญญาณที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเอาไว้ เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจบอกว่าจะใช้รหัสลับหากมาถึงจุดหลบซ่อน โดยเจ้าหน้าที่จะมีการเคาะประตู 6 ครั้ง ซึ่งหากคนด้านในปลอดภัยดี ให้เคาะกลับคืนไป 3 ครั้ง แต่สิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ มีเคาะประตูดังขึ้น 3 ครั้ง คนในกลุ่มที่หลบซ่อนตัวอยู่ ตะโกนถามว่า ใคร ใช่เจ้าหน้าที่หรือไม่ จากนั้นมีเสียงผู้ชายตะโกนกลับมาว่า ไม่ใช่ จากนั้นเสียงปืนก็ดังรัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไฟก็ดับลงมืดสนิท
หลังสิ้นเสียงปืนโจรก็ดึงประตูเปิดเข้าได้ จากนั้นพุ่งไปหานายอธิวัฒน์ ก่อนที่จะยิงเข้าบริเวณหน้าอก นายอธิวัฒน์พยายามคลานหนี ตนเองก็เข้าไปโอบกอดจนสุดท้ายเสียงปืนก็ดังขึ้นท่ามกลางความมืด ซึ่งไม่รู้ว่าวิถีกระสุนปืนยิงไปโดนใครบ้าง แต่คนร้ายยืนอยู่ไม่ไกลจากตนเอง และมองเห็นเงาของโจร โดยนายอธิวัฒน์เริ่มแน่นิ่งไม่หายใจ มีเลือดไหลท่วมพื้น จึงได้ตัดสินใจค่อยค่อยคลานหนีออกมาจากห้องเย็น และไม่รู้ว่าถูกยิงที่ขาขวาตอนไหน และเป็นภาพสุดท้ายที่ตัวเองจำความได้ ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่พาไปส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ผ่านพ้นเหตุการณ์ทุกคืนตนจะฝันถึงนายอธิวัฒน์ โดยคืนแรกนายอธิวัฒน์มาบอกว่าหนาว จากนั้นในคืนวันที่ 2 นายอธิวัฒน์ก็เข้าฝันบอกว่าอยากกลับบ้านที่บุรีรัมย์