ซีอีโอบริษัทอาหารสุนัข ทดสอบกินอาหารสุนัข 30 วัน เพื่อโชว์ว่ามันดีพอสำหรับสุนัขคุณ

คุณคิดว่าผลิตภัณฑ์สักชิ้นจะมีความน่าเชื่อถือได้ต้องมาจากอะไรเป็นอันดับแรก ? หลายคนมองว่าสิ่งแรกที่ควรทำก็คือ “เจ้าของ” ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ต้องใช้ของ ๆ ตัวเองอยู่เป็นประจำ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณดันเป็นเจ้าของบริษัทขายอาหารสุนัข และต้องการพิสูจน์ให้ชาวเน็ตเห็นว่า อาหารของคุณนั้นดีต่อสุนัขจริง ไม่ได้โม้

นี่คือเรื่องราวของ มิทช์ เฟลเดอร์ฮอฟฟ์ ซีอีโอของบริษัท Muenster Milling ผู้จัดจำหน่ายอาหารสุนัข Muenster ที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้ลงทุนรับประทานอาหารสุนัขของเขาเองตั้งแต่ 3 มกราคม ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมระยะเวลา 30 วันเต็ม โดยที่ไม่ได้รับประทานอาหารคนแม้แต่น้อย

Muenster คืออาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูงไม่ใช่แค่สุนัข แต่ยังมีอาหารม้าและไก่อีกด้วย ซึ่งทางมิทช์ต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่า เกรดอาหารของเขานั้นมีคุณภาพสูงมากขนาดคนยังรับประทานได้สบาย ๆ

และวิธีพิสูจน์ของเขาก็คือการรับประทานอาหารสุนัขประทังชีวิตติดต่อกันเป็นเวลา 30 วันเต็ม โดยที่ไม่ได้รับประทานอาหารคนแม้แต่น้อย

“การรับประทานอาหารสุนัขนั้นไม่ง่าย มันมีรสชาติที่ไม่ต่างจากกลิ่นของมัน” มิทช์กล่าว “ในช่วงสัปดาห์แรก 4 วันแรกคือช่วงเวลาที่ยากลำบากจริง ๆ ผมไม่รู้สึกดีเท่าไหร่ หนึ่งสิ่งที่ผมทำก็คือการอดอาหารเป็นพัก ๆ”

มันเป็นความสาหัสในช่วงแรกเท่านั้น เพราะมิทช์กล่าวว่า หลังจากย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่สาม เขาก็เริ่มคุ้นเคยกับอาหารสุนัขมากขึ้นจนไปถึงจุดที่ว่า รสชาติโปรดที่เขาชอบรับประทานก็คือ ธัญพืชโบราณ, ปลาทะเล และมีตบอล

มิทช์กล่าวว่า เขารู้สึกดีเลย เสียแค่ว่าเขาไม่ได้รับรู้รสชาติอาหารปกติทั่วไปก็แค่นั้น

มีชาวเน็ตมากมายสอบถามมิทช์ว่า จริงหรือไม่ที่เขาไม่ได้รับประทานอาหารอื่นเลยตลอด 30 วัน ซึ่งมิทช์ยืนยันว่าทำจริง แต่เขาก็ไม่แนะนำให้คนอื่นทำตาม และเขาต้องการแสดงให้ลูกค้าของ Muenster เห็นถึงความทุ่มเทของบริษัทที่ต้องการสร้างอาหารสุนัขที่ดีที่สุดแค่นั้น

“เราจะไม่ป้อนอาหารให้กับสุนัขของคุณ นอกเสียจากว่าเราจะกินมันก่อน” มิทช์กล่าว

หลังจากรับประทานอาหารสุนัขอย่างเดียวนาน 30 วัน น้ำหนักของมิทช์ลดลงไปถึง 13.6 กิโลกรัม จนเพื่อนร่วมงานของเขาแซวว่า นี่คือการไดเอทที่ได้ผลเชิงบวกอย่างดีเยี่ยม

“ขนของมิทช์ดูเป็นประกายเงางาม” เคนท์ บาร์นส์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมิทช์กล่าวติดตลก “เราสังเกตว่า ผมของเขาหนาขึ้น และผมเชื่อว่าขนที่หลังมือของเขาก็ยาวขึ้นด้วย”

สรุปแล้ว นี่ก็เป็นการทุ่มเทของซีอีโออาหารสุนัขที่ต้องการพิสูจน์คุณภาพอาหารสุนัขของเขา ซึ่งแน่นอนว่าเราเองไม่ได้ต้องการพิสูจน์อะไร ดังนั้นจึงไม่ควรไปทดลองกินเป็นจริงเป็นจังเด็ดขาด แต่ถ้าคุณอยากจะลองสักเม็ดสองเม็ดเพื่อรับรู้รสชาติล่ะก็ อาจจะทำให้คุณเข้าใจว่ามันอร่อยเหาะเหมาะสำหรับสุนัขคุณมากขึ้นก็เป็นได้