“วิษณุ” เลิกยุ่งที่ดินปารีณา ให้ กรมป่าไม้ ดำเนินการแก้ปัญหาแทน กรณีรุกป่าสงวน เพราะเป็นหน่วยงานที่สงสัย ระบุกฤษฎีกาบอกเป็นอำนาจของกรมป่าไม้จับกุมดำเนินคดี หากที่ดิน 682 ไร่ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ดิน สปก. การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลัง ปารีณา ได้ เรียกร้อง ให้ สปก. พิจรารณาที่ดินให้ตนเป็นคนแรกหลังยึดไปแล้ว!
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอแนะคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบคำถามกรมป่าไม้ ปมที่ดินนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรีพรรคพลังประชารัฐ ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ตอบคำถามไปยังกรมป่าไม้ เป็นเรื่องกรมป่าไม้จะต้องพิจารณาเอง เพราะการตั้งคำถามไปยังกฤษฎีกาจะนำมาเป็น บรรทัดฐานใช้กับบุคคลทั่วไป ทั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะกรณีของนางสาวปารีณา ซึ่งบางข้ออาจจะใช้กับนางสาวปารีณา แต่บางข้ออาจใช้กับบุคคลอื่น ซึ่งหลักสำคัญที่กรมป่าไม้สงสัยและต้องการคำตอบว่า กรมป่าไม้หรือ สปก. มีอำนาจเข้าไปดำเนินคดี ไม่ใช่เฉพาะ กรณีที่ดินนางสาวปารีณา แต่รวมถึงที่ดินทั้งหมดที่เข้าข่าย ซึ่งกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาว่าเป็นอำนาจของทั้ง 2 หน่วยงาน แต่อำนาจในการจับกุมเป็นของกรมป่าไม้ ดังนั้นต้องไปดูว่าการได้มาซึ่งที่ดินนั้นได้มาอย่างไร สปก.เข้าไปดำเนินการถึงขั้นตอนใด เพราะเกณฑ์ที่กฤษฎีกาใช้เป็นคำพิพากษาศาลฎีกาปี 2558 โดยมีหลัก 4 ข้อ
1. มีพรฎ.กำหนดเขตพื้นที่สปก
2 .ครม.มีมติให้ที่ดินแปลงนั้นเข้าสู่การปฏิรูป
3. สปก.ต้องออกแผนงานปฏิรูป
4 .มีงบประมาณเข้าไปดำเนินการ
แต่ครั้งนี้กฤษฎีกาได้เน้นย้ำว่า พื้นที่ 682 ไร่ของนางสาวปารีณา เป็นที่ดิน สปก.เฉพาะแปลงที่ผ่าน 4 ขั้นตอน ส่วนแปลงอื่นที่ไม่ชัดเจน ยังถือเป็นพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งในส่วนของที่ดินนางสาวปารีณา สปก.จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในวันนี้ ซึ่งเจ้าตัวพร้อมจะคืนพื้นที่ แต่มีเงื่อนไขหากมีการจัดสรรที่ดินเพื่อการเกษตร ขอให้สปก.ขอให้จัดสรรให้ตนเป็นคนแรก หากเจ้าตัวไม่ไปเอง สามารถมอบหมายผู้อื่นไปแทนได้ แต่หากไม่ให้ความร่วมมือในเรื่องนี้จะมีความผิดตามพรบ.สปก. และกฎหมายที่ดินฐานไม่ให้ความร่วมมือในการชี้เขตแดน แต่ไม่มีความผิดทางอาญา.
.