เช้า 13 ก.พ.2563 หลายคนน่าจะตกใจกับตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส COVID19 (โคโรนาสายพันธุ์ใหม่)ทั่วจีน ที่เพิ่มมาเป็น 59,883 ราย (เพิ่มจากเมื่อวาน 12 ก.พ.63 15,141 ราย) พักจากการตกใจ มาดูตัวเลขอื่นก่อนนิดนึง : หายป่วย 5,934ราย / เสียชีวิต 1,368ราย
เพจอ้ายจง อธิบาย ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เฉพาะที่ หูเป่ยเพิ่มขึ้น 14,840ราย (หูเป่ย ติดเชื้อรวม 48,206ราย) เป็นผลมาจากทางการจีนได้ปรับเกณฑ์การนับและวินิจฉัยผู้ติดเชื้อเป็นแบบใหม่สำหรับมณฑลหูเป่ย พื้นที่ระบาดหนัก โดยปรับเป็น
- ผู้ต้องสงสัยที่มีอาการบ่งชี้ทางคลินิกว่า ติดเชื้อ ที่เป็น Clinically diagnosed ให้เป็น "ผู้ติดเชื้อ" เลย ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ คือ ต้องตรวจและผลแล็บ(LAB)ระบุว่าเป็น Positive ถึงจะยืนยันว่า เป็นผู้ติดเชื้อ
- สรุปคือตอนนี้ ถ้าเป็นผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อ มีอาการป่วยบ่งชี้ทางคลินิกว่าติดเชื้อ ก็ถือว่าติดเชื้อเลย ไม่ต้องรอตรวจจนได้ผล Positive
"ทำไมต้องปรับ?"
- ทางการจีนระบุว่า การเปลี่ยนมาใช้เกณฑ์นี้จะทำให้คุณหมอวินิจฉัยและรักษาผู้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ไม่พลาด โดยตอนนี้จะวินิจฉัยหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น ภาพเอ็กซเรย์ปอด , สภาพร่างกายภายที่แสดงอาการออกมา และประวัติทางระบาดวิทยา
- ทางจีนยังให้เหตุผลอีกว่า ถ้าใช้เกณฑ์ก่อนหน้านี้ที่ต้องรอผลตรวจว่า Positive ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่แน่นอน แม้ว่ามีอาการป่วยบ่งชี้ว่าน่าจะติดเชื้อแน่ๆ ถึงจะคอนเฟิร์มได้ว่าคือผู้ติดเชื้อนะ มันทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไปต่ออีก เพราะคนที่ยังไม่ได้รับการระบุว่าติดเชื้อ จะยังไม่ได้รับรักษาในโรงพยาบาลแบบผู้ติดเชื้อ
สรุปคือ การเปลี่ยนเกณฑ์วัดแบบนี้ ตัวเลขพุ่งอย่างน่าตกใจแต่ในแง่ของการป้องกันและควบคุมไวรัสชนิดนี้ในจีน จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น