วันที่ 18 กุมภาพันธ์ นักข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านเลขที่ 83ทับ3 ถนนวัดแจ้ง หมู่ที่ 5 ตำบลบางรัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ได้มี นางสาว ปรียา วุ่นพันธ์ อายุ 37 ปี อาศัยอยู่กับครอบครัวทั้งหมด 7 คน มีลูกด้วยกันถึง 5 คน โดยพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอ ทำให้ นางสาวปรียา ให้ลูกชายคนโตคือ น้องโก้ ด ช ภาณุเดช อายุ 14 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ออกไปช่วยเก็บขยะหลังเลิกเรียน ตั้งแต่เวลา 16 00 ถึง 22 00 น ทุกวัน โดยทิ้งให้ลูก ๆ อีก 4 คน อายุ 2 ขวบ 3 ขวบ 9 ขวบ และ 13 ขวบ อยู่บ้านตามลำพัง
น.ส.ปรียา กล่าวว่า เธอพาลูกชายไปเก็บของเก่าขายมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียน ไม่มีวันหยุด แต่ละวันมีรายได้ตั้งแต่ 250ถึง300 บาท ซึ่งไม่พอใช้จ่ายสำหรับลูกทั้ง 5 คน หามาได้ 300 ก็หมดทั้ง 300 ข้าวสารตกวันละ 1 กิโลกรัม หากเป็นวันหยุดต้องหุงวันละ 2 กิโลกรัม
บางวันลูก ต้องขาดเรียน เพราะต้องมาดูแลน้อง และไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน ตนก็หวังให้ลูกเรียนจบ มีงานทำ และมีอนาคตที่ดีกว่าพ่อแม่ ขณะที่ น้องโก้ กล่าวว่า ครูรู้ว่าตนต้องช่วยแม่เก็บขยะ ขณะที่เพื่อนก็ล้อว่าเป็นเด็กเก็บขยะ เนื้อตัวมอมแมม ส่วนที่โรงเรียนได้ช่วยหาทุนการศึกษาให้ ตนมีความฝันอยากเป็นช่างยนต์ เพราะรายได้ดี ไม่ต้องมาเก็บขยะขาย ตอนนี้อยากได้ทุนการศึกษา และเสื้อผ้าชุดนักเรียนทั้งของตัวเองและของน้อง ๆ อีก 2 คน เพราะมีกันคนละชุด ต้องกลับมาซักกันทุกวัน
ขณะเดียวกัน นางนิตยา มุทามาศ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตรัง เข้าสอบถามความสมัครใจของผู้เป็นแม่ โดยยินดีรับเด็กวัย 2ถึง3 ขวบไปดูแลโดยให้เธอไปรับส่งทุกเช้าเย็น เพื่อจะได้มีเวลาหาของเก่าในเวลากลางวัน ส่วนอีก 3 คน 9ถึง14 ปีจะส่งไปเข้า โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ที่ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสืออย่างเต็มที่ แต่ปรากฏว่าเธอปฎิเสธ โดยอ้างว่าจะขอเลี้ยงดูตามสภาพ ซึ่งหากน้องโก้ไปอยู่ที่อื่น เธอก็ไม่มีคนมาช่วยเก็บของเก่าขาย แต่ได้รับปากว่าจะไม่ปล่อยให้ลูกทั้ง 4 คน อยู่กันตามลำพังเกิน 2 ทุ่ม
สำหรับน้องโก้ ปัจจุบันได้เปิดบัญชีร่วมกับพระครูโอภาสธรรมวิมล เจ้าอาวาสวัดแจ้ง อำเภอเมืองตรัง โดยใช้ชื่อบัญชี พระครูโอภาสธรรมวิมลและ ด ช ภาณุเดช รัตนบุรี ติดต่อช่วยเหลือที่หมายเลขโทรศัพท์ 099 3140634
ขอบคุณ khaosod