ปลัดกระทรวงพลังงานเผยการปรับแผน PDP 2018 จะทำให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บกับประชาชนเพิ่มขึ้น 0.0769 บาท/หน่วย แต่เชื่อว่าจะบริหารจัดการได้
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ผลการศึกษาจัดทำร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ปี 2561-2580 หรือPDP 2018 ฉบับปรับปรุง ยอมรับว่าการผลิตไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น
ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บกับประชาชนเพิ่มขึ้น 0.0769 บาท/หน่วย จากช่วงการศึกษาค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 3.5903 บาท/หน่วย มาอยู่ที่ 3.6672 บาท/หน่วยในช่วงปลายแผน แต่ยืนยันว่ารัฐจะบริหารจัดการได้ เพราะมีแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG เพื่อผลิตไฟฟ้าซึ่งปัจจุบันราคา LNG ปรับลดลงอยู่ในระดับที่สามารถดูแลต้นทุนค่าไฟฟ้าไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนได้
โดยการปรับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ให้สอดคล้องกับแผนพีดีพี 2018 ตั้งเป้าหมายเพิ่มโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากในปี 2563-2567 จะมีพลังงานชีวมวล/ ก๊าซชีวภาพ/ ก๊าซชีวภาพ / และโซลาร์ ไฮบริด กำลังผลิตรวม 1,933 เมกกะวัตต์
พร้อมทั้งปรับลดสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพตามทิศทางการใช้พลังงานในอนาคต เช่น การใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้การใช้น้ำมันลดลง และการสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแล้วเสร็จ ยังรักษาระดับเป้าหมายสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนต่อการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายไม่น้อยกว่า 30% ในปี 2580
ทั้งนี้ ระยะแรกโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกกะวัตต์ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโรงไฟฟ้าชุมชนได้กำหนดหลักเกณฑ์คัดเลือกเพื่อประกาศในช่วงต้นเดือนมี.ค. และจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าในเดือนเม.ย. ของโครงการเร่งด่วน ควิกวิน จำนวน 100 เมกกะวัตต์ ซึ่งจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปี 2563 ส่วนอีก 600 เมกกะวัตต์จะประกาศรอบต่อไป กำหนดแผนจ่ายไฟฟ้าภายในปี 2564