มาดูกันว่า เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 2 รถยนต์อเนกประสงค์ของค่ายอเมริกัน มีดีตรงไหนที่จะเรียกความสนใจจากลูกค้าชาวไทย หลังจากเงียบหายไปนานหลายปี
รถอเนกประสงค์เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ All-New Captiva ผสานทุกการใช้ชีวิตอย่างลงตัวด้วยยนตรกรรมแนวคิด 3s Style ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวทั้งภายนอก และภายใน Space พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง และอเนกประสงค์ยิ่งขึ้น Smart Technology หลากหลายฟังก์ชันเทคโนโลยีสุดล้ำ
รูปลักษณ์ และอุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
– ดีไซน์ภายนอกใหม่ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ดีไซน์ใหม่ พร้อม LED Daytime running light (DRL) พร้อมไฟเลี้ยวในชุดโคมเดียวกัน เพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– โคมไฟหน้า LED ที่ส่องสว่างได้ไกลขึ้น (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ทันสมัย ระบายความร้อนได้ดี พร้อมตราสัญลักษณ์เชฟโรเลต
– เสาอากาศครีบฉลามช่วยในการรับสัญญาณดีขึ้น
– สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคหลังที่ 3 แบบ LED
– หลังคาพาโนรามิก (Panoramic Sunroof) กว้างขวางถึง 0.82 ตร.ม. มาพร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ One-touch (สำหรับรุ่น Premier เท่านั้น)
– กันชนหน้าหลังพร้อมแผงกันกระแทกรอบคัน
– กระจกมองข้างปรับระดับไฟฟ้าพร้อมสัญญาณไฟเลี้ยวแบบ LED
– กระจกมองข้างพับระบบไฟฟ้า (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– ล้ออัลลอย 17 นิ้ว สำหรับรุ่น LS และ LT และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต แบบทูโทนและยาง ขนาด 17 นิ้ว สำหรับรุ่น Premier
– สีตัวถัง สีมาตรฐาน 5 สี (สีเงินออโรร่า ซิลเวอร์, สีเงินแดซลิ่ง ซิลเวอร์, สีดำสตาร์รี่ แบล็ก, สีขาวแคนดี้ ไวท์ และสีแดงคาร์เนเลียน เรด)
การออกแบบ และอุปกรณ์มาตรฐานภายใน
– พวงมาลัยหุ้มหนัง (เฉพาะรุ่น Premier)
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) สั่งการทำงานได้จากสวิตช์บนพวงมาลัย
– พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับวางสายโทรศัพท์
– ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ Push start (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– หน้าจอคอนโซลสีแบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว (เฉพาะรุ่น Premier) ออกแบบให้มองเห็นง่ายและอ่านข้อมูลได้อย่างชัดเจน
– กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ (สำหรับรุ่น Premier เท่านั้น)
– ช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2 (สำหรับทุกรุ่น) และระบบปรับอากาศแยกส่วนสำหรับผู้โดยสารตอนที่ 3 เย็นทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– การออกแบบ และจัดวางห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบายยิ่งขึ้น
– เบาะที่นั่งคนขับปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง สะดวกสบายยิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น Premier) และรองรับผู้โดยสารสูงสุดถึง 7 ที่นั่ง (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– พื้นที่นั่งแถวที่ 2 เพิ่มพื้นที่ช่วงขาให้กว้างขึ้นและพื้นที่นั่งแถวที่ 3 พัฒนาให้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้อย่างอเนกประสงค์ สามารถพับเบาะได้หลากหลาย ในอัตราส่วน 60:40
– เบาะแถวที่ 3 พับได้ ในอัตราส่วน 50:50 (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– วัสดุหุ้มเบาะนั่งด้วยหนังสังเคราะห์สีชาโคลให้ความรู้สึกหรูหรา (สำหรับรุ่น LT และ Premier) และผ้ายีนส์ขอบดำให้ความรู้สึกสปอร์ตโฉบเฉี่ยว (สำหรับรุ่น LS)
– มีที่วางแก้ว และช่องเก็บของทุกแถว
เปรียบเทียบความแตกต่าง All-New Chevrolet Captiva ทั้ง 3 รุ่นย่อย
ระบบเครื่องเสียง และความสะดวกสบาย
– หน้าจออินโฟเทนเมนท์แสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว
– Chevrolet Link ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง แสดงหน้าจอมือถือบนจออินโฟเทนเมนต์
– รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ด้วยสัญญาณบลูทูธ
– ระบบเครื่องเสียง Infinity by Harman คุณภาพเยี่ยม แบบพรีเมียมรอบทิศทาง พร้อมลำโพง 9 ตัวรวมซับวูปเฟอร์ (เฉพาะรุ่น Premier)
– กุญแจอัจฉริยะ (PEPs) ระบบ Keyless Entry พร้อมระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– ช่องเชื่อมต่อ USB พอร์ท 4 ตำแหน่ง (สำหรับรุ่น LT และ Premier) ช่องจ่ายกระแสไฟ 12 โวลต์ บริเวณคอนโซลกลาง
– ระบบไฟนำทางเข้าบ้าน Walk Me Home ช่วยส่องไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์
ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยในการขับขี่
– โครงสร้างตัวถังนิรภัยและคานเหล็กนิรภัยกันแรงกระแทกจากด้านข้าง
– ถุงลมนิรภัย SRS สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า และถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้าถึง 4 จุด (สำหรับรุ่น LT และ Premier)
– เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
– ระบบแจ้งเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยฝั่งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า
– ตำแหน่งยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กได้มาตรฐานสากล ISOFIX สำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2
– กล้องมองภาพหลังพร้อมเส้นกะระยะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ในที่แคบ
– กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 degree Camera 4 ตำแหน่งรอบคัน (เฉพาะ รุ่น Premier เท่านั้น)
– เซ็นเซอร์หน้า (เฉพาะรุ่น Premier) และเซ็นเซอร์หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด (Front & Rear Park Assist)
– ระบบตรวจวัด และแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (TPMS)
– ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
– ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
– ระบบป้องกันการลื่นไถลและล้อหมุนฟรี (TCS)
– ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
– ระบบช่วยการออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
– ระบบไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน (ESS)
– ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
– ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Vehicle Hold)
– ระบบไล่ฝ้าที่กระจกหลัง
แชสซีส์ การควบคุม เบรก และระบบกันสะเทือน
– ด้านหน้า: อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
– ด้านหลัง: อิสระ มัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
– ด้านหน้า: ดิสก์เบรก
– ด้านหลัง: ดิสก์เบรก
– ขนาดยางหน้าและหลัง 215 / 60 R17
– ยางอะไหล่ 215 / 60 R17
เครื่องยนต์ และระบบส่งกำลัง
– เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (DVVT) และระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
– เกียร์อัตโนมัติแปรผันแบบต่อเนื่อง CVT พร้อมโหมด Shift Control+- 8 สปีด สะดวกสบายในการขับขี่เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบลื่น และนุ่มนวล
– ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ในเมืองและขณะจอดรถ (EPS)
– เบรกมือไฟฟ้า (EPB)
– ความจุถังน้ำมัน 52 ลิตร
– รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E10
– ระบบหัวฉีดแบบหลายจุด
มิติตัวถังภายนอก
– ความยาว 4,655 มม. (พร้อมกันชนหน้า)
– ความกว้าง 1,835 มม. (พร้อมกระจกมองข้างที่ขยายจนสุด)
– ความสูง 1,760 มม.
– ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม.
– ล้ออัลลอย 17 นิ้วและยาง 215/60 R 17
– น้ำหนักรถเปล่า 1,520 กก. (รุ่น LS), 1,600 กก. (รุ่น LT), 1,630 กก. (รุ่น Premier)
ราคาจำหน่ายรถอเนกประสงค์เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่