จากกรณีที่เกิดเหตุมีโจรชิงทองที่ห้างทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าโรบินสันลพบุรี จนเป็นเหตุทำให้ผู้มีเสียชีวิต 3 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแกะรอยเป็นเวลานานนกว่าจะสาวถึงตัวคนร้ายคนจริงอย่างนายประสิทธิชัย หรือ กอล์ฟ ผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี และสามารถจับกุมได้ในที่สุด
20 กุมภาพันธ์ 2563 อัยการสูงสุด เตรียมนำ คำสั่งฟ้องคดีผอ.กอล์ฟ ฆ่าชิงทองร้านออโรร่า ลพบุรี รวม 9 ข้อหา ส่งศาลอาญาวันนี้ พร้อมระบุ สำนวนยังมีผู้กระทำความผิดเพียงคนเดียว ขณะเดียวกันได้บรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ พร้อมประสานผู้เสียหายยื่นคำร้องเรียกค่าสินไหมทดแทน
โดย นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะอัยการสำนักงานคดีอาญา แถลงถึงกรณีคำสั่งฟ้องคดีกล่าวหา นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือผอ.กอล์ฟ ผู้ต้องหาคดีฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองในจ.ลพบุรี ว่า หลังจากวันที่ 11 ก.พ. อัยการได้รับสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม โดยมีผู้กล่าวหารวม 9 คน และเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญ และสื่อมวลชนให้การติดตามความคืบหน้าคดีอย่างต่อเนื่องจึงเป็นคดีสำคัญ
ทั้งนี้นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสูงสุด จึงได้ให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินคดี มีนายพรชัย ชลวณิชกุล รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และเมื่อคณะทำงานพิจารณาสำนวนการสอบสวนแล้วครบถ้วน ไม่มีประเด็นต้องสั่งสอบสวนเพิ่มเติม คณะทำงานจึงความเห็นควรสั่งฟ้องตาม รวมทั้งหมด 9 ข้อหา ได้แก่
ขณะที่ นายพรชัย หัวหน้าคณะทำงาน บอกด้วยว่า จากการตรวจสำนวนแล้ว มีผู้ต้องหาเพียงคนเดียว ยังไม่ปรากฎว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิด หรือสนับสนุนในการกระทำความผิด และในคำบรรยายฟ้อง อัยการได้ขอให้ศาลลงโทษสถานหนักเพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ และขอให้ศาลพิจารณาอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นคดีที่ประชาชนสนใจด้วย
ส่วนกรณีของผู้เสียหาย สามารถขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ตาม ม.44/1 นั้นทางผู้เสียหายต้องยื่นคำร้องเข้ามาก่อนศาลเริ่มสืบพยาน ซึ่งขณะนี้พนักงานอัยการก็ได้ประสานไปยังพนักงานสอบสวน แจ้งให้ผู้เสียหายทราบเพื่อให้ยื่นคำร้องเข้ามาแล้วและการสืบพยานในชั้นศาลนั้น ก็จะต้องสืบพยานเพื่อมาประกอบคำรับสารภาพ แม้ว่าผู้ต้องหาจะรับสารภาพก็ตาม แต่ไม่รู้ว่าคำรับสารภาพเป็นการจำนนต่อหลักฐานหรือไม่ ดังนั้นก็จะต้องมีการกำหนดตัวพยานก็จะต้องเป็นพยานคนสำคัญๆโดยจะสืบพยานจนศาลพอใจและยืนยันว่า พยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนมีความแน่นหนา เพียงพอต่อการพิสูจน์การกระทำความผิดของจำเลย