วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ สน.คันนายาว นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา นางเอ นามสมมติ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว เด็กหญิงบี นามสมมติ อายุ 11 ปี และเด็กหญิงซี นามสมมติ อายุ 4 ปี ลูกสาว เข้าพบ พตอ วาสุเทพ คงกล่อม ผกก สน คันนายาว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี
หลังเด็กหญิงสองพี่น้องถูก นายชัย นามสมมติ อายุ 42 ปี พ่อแท้ๆ ข่มขืนและกระทำอนาจารมานานเป็นปี หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับผู้ต้องหา และขอให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมข่มขู่เอาชีวิต
นางเอ เล่าว่า อยู่กินกับนายชัย มานานกว่า 10 ปี มีลูกสาว 2 คน และอาศัยอยู่ที่ห้องเช่า ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ตนทำอาชีพเป็นพนักงานทำความสะอาดหมู่บ้าน มีหน้าที่คอยกวาดถนนดูแลความเรียบร้อยในหมู่บ้าน ส่วนนายชัย เป็นคนงานก่อสร้างมีนิสัยชอบดื่นสุรา หากวันไหนเมาจะไม่ไปทำงาน ช่วงหลังมักจะอยู่ในห้องเช่ากับลูกสาวคนโต
โดยทีแรกก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งเมื่อปีที่แล้วตนเห็นกับตาว่า นายชัย ใช้ผ้าห่มคลุมโปงกำลังกระทำกับลูกสาวคนโต จึงได้ต่อว่าไปจนทะเลาะกันรุนแรง และ นายชัย ได้ทำร้ายร่างกายตนพร้อมกับขู่ฆ่าถ้านำเรื่องนี้ไปบอกใคร ที่ผ่านมาพยายามกราบขอร้องว่าอย่าทำกับลูกอีก ซึ่ง นายชัย ก็รับปากแต่ก็แอบทำเรื่อยมาจนทุกวันนี้ โดยลูกก็บอกกับตนว่าไม่กล้าขัดขืนเพราะกลัวพ่อจะทำร้าย และยังเห็นพ่อทำกับน้องอีกหลายครั้ง
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา นางเอ นามสมมติ เข้าพบ พตอ วาสุเทพ คงกล่อม ผกก สน คันนายาว
ทางด้าน นายชัย ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา อ้างว่า ก่อเหตุไปเพราะเมา ทำมานานเป็นปีแต่ทำเฉพาะลูกคนโต และเลิกทำมานานแล้ว ทั้งนี้ไม่เคยข่มขู่ภรรยาเพียงแต่โพสต์เฟซบุ๊ก เพราะโกรธที่ภรรยาพาลูกๆ หนีออกจากบ้านไป อยากให้กลับมาบ้านดูแลของที่บ้านและสัตว์เลี้ยง
ผู้ต้องหา
พ.ต.อ.วาสุเทพ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ต้องหาระหว่างควบคุมตัวเนื่องจากผู้ต้องหามีอาการเครียด อย่างไรก็ตามจะทำการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้เพราะเป็นสิทธิ และเตรียมส่งตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลอาญามีนบุรีฝากขังในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 63 ต่อไป