จากกรณีจนท.ได้เข้าตรวจสอบเหตุ เจ้าของเต๊นท์รถกินยาพิษและรมควันตัวเองและครอบครัวเสียชีวิตรวม 5 ศพ พร้อมกับสุนัขคู่ใจอีก 6 ตัว ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าสาเหตุการเสียชีวิตเป็นเรื่องปัญหาหนี้สิน
โดยพบโน้ตบันทึกข้อความในโทรศัพท์ลงวันที่ 12 ก.พ. 2563 มีข้อความว่าเกือบแล้วสินะชีวิต เกือบได้ไปอยู่พร้อมพร้อมกัน 11 ชีวิตในที่สงบ ไม่รู้จะต้องสู้ไปอีกนานแค่ไหน ไม่รู้ว่าสู้ได้ถึงวันไหน หมดหนทางแล้วจริงๆสินะ อุปกรณ์พร้อมทุกๆคนในครอบครัวยกเว้น Winner ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก่อนจะเป็นไร ไปฉุดคิดถึงพี่สาว เขาจะมาหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างเพราะเราไม่ได้ ต้องหาเงินสักก้อนให้เขาได้เดินต่อได้พรุ่งนี้เริ่มดิ้นรนใหม่แต่ไม่รู้ว่าจะดิ้นได้ถึงวันไหนนะ
และอีก 1 ข้อความลงวันที่ 16 ก.พ. 2563 ใจความว่าเขาคงไม่อยากให้เรา 11 ชีวิตอยู่ต่อไปแล้วจริงๆหมดทุกหนทางแล้วสินะเมื่อมันอยู่ต่อไม่ได้เราก็ขอจากไปพร้อมกันเลยละกันทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออยู่รอดแต่ทุกอย่างมันตันไปหมดแล้วริบหรี่ทุกวันแล้วนะชีวิต
ล่าสุด ญาติผู้เสียชีวิต เล่าว่า ติดต่อกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและครั้งสุดท้ายในวันพุธ 19 ก.พ. 63 ช่วงเวลา 23.00 น. หลังจากนั้น ไม่สามารถติดต่อได้เลย จนกระทั่งวันนี้ มาที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยมีพี่สาวไปรับมาก็พบว่าประตูบ้านปิด จึงให้หลานปีนหน้าต่างเข้าไปปลดล็อคประตูหน้า ก็พบว่าทุกห้องเปิดอยู่
ยกเว้นประตูห้องน้องของแม่เฮียตี๋ ที่ล็อคอยู่จึงตัดสินใจถีบประตูเข้าไป ก็พบผู้เสียชีวิตทั้ง 5 รายอยู่ในนั้น โดยมีเลือดออกจากปาก คาดว่ากินยาฆ่าตัวตายและยังมีอั้งโล่เพื่อเป็นการรมควันซ้ำอีก
ขณะที่ หลานสาวซึ่งดูแลหน้าร้านเต็นท์รถ เล่าว่าเฮียเป็นคนรักสุนัขมาก เรียกว่ารักเหมือนลูก จึงเอาชีวิตไปทั้ง 6 ตัว ด้วย พร้อมกัน และก่อนตายเฮียได้สั่งปิดกล้องวงจรปิด ก่อน 2 วันก่อนเกิดเหตุ จึงคาดว่าผู้ตายได้เสียชีวิตมาแล้ว 2 วันแล้ว โดยที่ไม่มีใครรู้เนื่องจากพื้นที่จุดเกิดเหตุทั้งร้านเต๊นท์รถและบ้านอยู่ในรั้วเดียวกัน ไม่ต่ำกว่า 5 ไร่
ด้านพตอ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่มีพบร่องรอยการต่อสู้ หรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ทำให้เชื่อได้ว่า สาเหตุมาจากการกินยานอนหลับและรมควัน
ต้องสอบสวนญาติพี่น้องอีกครั้งว่าแรงจูงใจมาจากสาเหตุอะไร แต่จากการสอบสอบสวนเบื้องต้น คาดว่าน่าจะหนีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก เบื้องต้นแพทย์ได้ชันสูตรศพแล้วว่าสาเหตุการตายมีก๊าซคาบอนไดออคไซด์ ที่ปอดทำให้ขาดอากาศหายใจ ส่วนการกินยาพิษ นั้นต้องผ่าชันสูตรอีกครั้ง
ด้านเพื่อนสนิทของเสี่ย เปิดเผยว่า ติดต่อกับเฮียตี๋ครั้งล่าสุดเมื่อกลางดึกวันพุธก็ไม่มีท่าทีจะคิดสั้นหรือเครียดใดๆ ทุกอย่างเป็นปกติ ยังพาแม่และครอบครัวไปกินอาหารญี่ปุ่น
แต่พอเช้าวันต่อมา ก็ปิดเต็นท์เงียบ สั่งให้ลูกน้องหยุดงาน จนมาเช้าวันศุกร์ทั้งลูกน้องและคนสนิทเห็นผิดปกติ จึงเข้าไปตรวจสอบที่บ้านก็ปิดเงียบจึงเปิดเข้าบ้านและพังประตูห้องน้อง ก็พบภาพสลดหดหู่ ทุกคนเสียชีวิตแล้ว
ส่วนปมสาเหตุเชื่อว่า มาจากหนี้สิน การก่อเหตุครั้งนี้จากจดหมายข้อความระบายต่างๆ เชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาธุรกิจและหนี้สิน โดยเฮียตี๋ ทำธุรกิจหลายอย่างทั้งเต๊นท์รถ รับรีไฟแนนท์ และพึ่งเปิดรับตรวจสภาพรถ ตรอ.ไปไม่นาน รายได้หลักมาจากการทำรีไฟแนนท์แล้วได้กำไรส่วนต่าง เฮียตี๋ก็ไปหยิบยืมเพื่อนสนิทนำเงินมาลงทุนธุรกิจนี้
พอได้ก็คืนเงินให้พร้อมเปอร์เซ็น เป็นเหมือนการลงขันทำธุรกิจแล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมา ระบบไฟแนนท์มีการจ่ายเงินล่าช้าทำให้ยอดคืนเงินสะสม และเกิดปัญหาแต่ ไม่มีใครทวงเงินหรือกดดันใดๆ
เพราะทุกคนที่เฮียตี๋ไปยืมเงินมานั้นสนิทกันมาก และไม่มีใครรู้ว่าประสบปัญหาทางการเงิน เพราะพึ่งเปิดธุรกิจตรวตสภาพรถ ตรอ.ไปได้ไม่นาน บ้านก็ก่อสร้างใหม่ได้ไม่นานใช้เงินสดก่อสร้างบ้าน และตกแต่งไปกว่า2ล้านบาท
ทำให้รายได้ที่มีอยู่ไม่เพียงพอ พอถึงเวลาชำระตามนัด เฮียตี๋ก็หาคืนไม่ได้ตามกำหนด ก็เกิดความเครียดสะสม และเป็นคนซื่อสัตย์ มีสัจจะ ไม่เคยผิดคำพูด แต่เมื่อถึงทางตัน ก็เลยคิดสั้น ซึ่งทั้งบ้านนี้รักกันมาก
เมื่อเลือกจบชีวิตก็ไปพร้อมกันและสุนัขที่รักเหมือนลูกอีก 6 ตัว เรื่องที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ เฮียตี๋และครอบครัวขยัน ประหยัด พยายามทำทุกทาง ช่องทางไหนมีรายได้เพิ่มก็จะทำ แต่มันไปไม่ได้ ไม่ว่าแต่เฮียตี๋
หลายครอบครัวหลายธุรกิจปัจจุบัน เจอปัญหากันหมด เมท่อเขาทำทุกอย่าง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แล้วยประสบปัญหา เลยต้องคิดสั้น ส่วนหนี้สินที่หยิบยืมมานั้น โดยรวมแล้วมีหนี้สินเกือบ 20 ล้าน
ขณะเดียวกันพ่อเสี่ยเต๊นท์รถคาใจ ไม่เชื่อลูกชายจะฆ่าตัวตายเพราะหนี้สิน ทรัพย์สินที่มี มากกว่าหนี้หลายเท่า หวั่นถูกโกงการทำธุรกิจ สุดงงกล้องววจรปิดถูกถอด พอเสียชีวิตเจ้าหนี้ส่งโพยหนี้สินทันที
ซึ่งพ่อเสี่ยเต๊นท์รถ เปิดใจ ไม่เชื่อว่าลูกชายจะฆ่าตัวตายเพราะหนี้สิน เพราะทรัพย์สินที่มีอยู่มูลค่าเกินกว่าที่ลูกเป็นหนี้ หากลูกเป็นหนี้จริง ขายทรัพย์สินขายที่ดินที่อยู่ มูลค่ากว่า 30 ล้านก็ได้แล้ว ทรัพย์สินในบ้านแค่ชุดเครื่องเสียง ก็เกือบล้าน ห้องฟิตเนส อุกรณ์ต่างๆ และทรัพย์สินที่มี หากมีหนี้ทำไมเจ้าหนี้ไม่มายึดไป
ผมก็สงสัยหลายสิ่งว่าที่บอกลูกผมเป็นหนี้ หรือลูกผมโดนโกง หรือทำอะไรกันแน่ ที่ผ่านมาแม้จะแยกกันอยู่กับลูกมานาน แต่ก็ติดต่อกับลูกมาตลอด จนลูกสาวคนโตก็มาขอยืมเงินจำนวน 7 แสนบาท แต่พ่อบอกมีเงินสดแค่ 4 แสน อีก 3 แสนมาเอาอีกครั้งได้
ซึ่งไม่เคยรับรู้ว่าลูกมีปัญหาขนาดนี้ และพอลูกตาย เจ้าหนี้มากันเพียบ และมีคนมายื่นจดหมายว่าลูกเป็นหนี้ใครบ้าง ลูกผมตายยังไม่ถึง 24 ชม. เจ้าหนี้มาเพียบ และอีกเรื่องที่คาใจ กล้องวงจรปิด ที่บ้านและร้าน ทำไมถูกปิดก่อนจะเกิดเหตุ
ทั้งที่หากจะฆ่าตัวตายก็ตายในบ้าน แต่ทำไมต้องถอดวงจรปิดทั้งหมด และคนที่ถอดกล้องก็ให้การไม่ตรงกัน ผมสงสัย อยากฝากให้ช่วยกันคิด และจากนี้พ่อจะเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูลส่วนที่คาใจ เพื่อหาสาเหตุว่าลูกชายและครอบครัวเสียชีวิต เพราะฆ่าตัวตายหรือใครมาทำให้ตาย
ด้านลูกน้องคนที่ถอดกล้องวงจรปิด เปิดเผยว่า ตนเป็นคนถอดปลั๊กกล้องวงจรปิด ออกเอง เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ตามคำสั่งของหลานเฮีย ซึ่งหลานก็บอกว่าได้รับคำสั่งจากเฮีย ตอนแรกก็คิดในใจว่าทำไมทำแบบนี้
เพราะเป็นคำสั่งเด็ดขาดของเฮียห้ามถอดปลั๊กกล้องเด็ดขาด และวันที่19 ก.พ. ช่วงเย็น แม่ของเฮีย ก็บอกให้แม่บ้านไปซื้อถ่านมาให้ โดยส่วนตัว ที่อยู่ในจุดเกิดเหตุตลอดไม่พบพิรุธใดๆ หรือมีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาในพื้นที่ ทั้งบ้านเฮียคุยกันหมดแล้ว