สถานการณ์การของไวรัส COVID-19 ยังพบการแพร่ระบาดอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศสุ่มเสี่ยงโซนเอเชีย หนึ่งในนั้นก็คือประเทศญี่ปุ่น ที่มียอดผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุ 769 รายแล้ว
และเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Katun Hunter ก็ได้มาแชร์ประสบการณ์การถูกกักตัวเพื่อตรวจเชื้อไวรัส COVID-19 ที่โรงพยาบาล ซึ่งเธออยู่ในกลุ่มเสี่ยงผู้ติดเชื้อ หลังจากเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีการประกาศให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยเจ้าตัวก็มั่นใจว่าได้ป้องกันตัวเองดีแล้วทั้งใส่หน้ากาก ใช้แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ
แต่หลังจากกลับมาได้ 14 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักตัวของเชื้อไวรัส เธอเริ่มมีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อย และเป็นไข้ จึงรีบไปโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ซักประวัติว่าได้เดินทางไปต่างประเทศหรือไม่ เจ้าตัวตอบไปว่า ไปโตเกียว และอีกหลายคำถามตามมา ก่อนจะได้รับแจ้งว่า เธอเป็นผู้ป่วยเข้าข่ายโรค COVID-19
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พาตัวเข้าห้องสังเกตอาการ โดยมีกล้องวงจรปิดไว้คอยดูตลอด พร้อมแพทย์ที่ใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อเต็มรูปแบบ โดยใช้การตรวจหาเชื้อแบบไข้หวัดใหญ่ รอผล 45 นาที ผลออกมา ไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่
เจ้าหน้าที่จึงต้องตรวจครั้งที่ 2 ทั้งตรวจจากจมูก คอ และเจาะเลือดเพื่อส่งตรวจกับหน่วยงานเฉพาะ รอผลอีกประมาณ 8 ชั่วโมง ระหว่างนั้นยังคงต้องอยู่ในห้องสังเกตอาการต่อ โดยมีคนนั่งเฝ้าพร้อมชุดป้องกันการติดเชื้อเหมือนกับหมอที่อู่ฮั่นยังไงยังงั้น
ในช่วงเวลานั้นเอง เจ้าตัวเฝ้ารออย่างใจจะขาด ความคิดในหัวตีกันวุ่น คิดไปแล้วว่า หากเป็นอะไรไป คนข้างหลังจะใช้ชีวิตยังไง และอื่น ๆ อีกมากมายที่ผุดเข้ามาในหัว
จนกระทั่งเวลา 1 ทุ่ม เจ้าหน้าที่มาแจ้งผลว่า ผลตรวจเลือดเป็นลบ เป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาเท่านั้น และตอนนี้อาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว รวมระยะเวลาที่อยู่ในห้องตรวจด้วยใจระทึกร่วม 9 ชั่วโมง
พร้อมกับฝากทุกคนว่า “หากใครมีเพื่อนที่ไปประเทศกลุ่มเสี่ยง หากป่วยแล้วต้องไปโรงพยาบาล ถ้าถูกซักประวัติ ขอให้บอกให้หมด เพราะข้อมูลที่แท้จริงจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ประเมินความเสี่ยง เพื่อรักษาเราและป้องกันคนอื่นได้อีกด้วย”
แม้เธอจะรอดจากไวรัสอู่ฮั่น แต่โดนบิลค่ารักษาไป 42,073 บาท ซึ่งก็มีคนจำนวนหนึ่งมองว่า เป็นเรตค่ารักษาปกติของโรงพยาบาลเอกชนอยู่แล้ว และเธอบอกถึงสาเหตุที่ไม่ได้เคลมประกันการเดินทางว่า ต้องเคลมภายใน 7 วัน หลังกลับมา แต่เธอกลับมา 14 วันแล้ว จึงต้องจ่ายค่ารักษาเองทั้งหมด