สาวถึงกับน้ำตาร่วง ถูกเลือกปฏิบัติสารพัดจากสายการบิน เพราะเธอเป็นชาวเอเชีย

ท่ามกลางกระแสความหวาดกลัว และความมีอคติต่อชาวเอเชียที่มักถูกมองว่า เป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องประสบพบเจอกับเรื่องราวอันแสนเจ็บปวดนี้ จนเธอได้นำเรื่องราวมาแชร์ลงเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา

เจ้าของโพสต์ชื่อว่า โทริ โหว (Tori Vo) เธอเริ่มต้นขึ้นว่า ในวันที่เกิดเรื่องเป็นวันวาเลนไทน์ แต่เธอกลับต้องหัวใจแตกสลาย ไม่ใช่เพราะความรักจากสามีของเธอ แต่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินไฟลต์นี้

ระหว่างเธอกำลังรอเช็คอินขึ้นเครื่องของสายการบิน Volaris เพื่อเดินทางจากเมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปยังเมืองกวาดาลาฮารา ในเม็กซิโก ซึ่งเธอก็บินเส้นทางนี้ไปทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การตรวจคัดกรองคนเข้า-ออกก็จะเข้มงวดเป็นพิเศษ ซึ่งเธอก็เข้าใจดี

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งได้ถามเธอว่า “เคยเดินทางไปที่จีนไหม” เธอก็ตอบว่า “ไม่เลย” และพนักงานหญิง 2 คนก็เปิดดูหนังสือเดินทางของเธออย่างละเอียด

หลังจากที่เธอผ่านมาได้แล้ว กลับมีเจ้าหน้าที่ชายอีกคนบอกกับเธอว่า

“ไม่ ไม่ คุณไปยืนรอตรงนั้น คุณต้องได้รับการตรวจเช็กอีกรอบ”

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็เข้ามาตรวจค้นตัวเธอทุกซอกทุกมุม ทั้งกระเป๋าเป้ กระเป๋าสัมภาระ ก่อนจะกระชากตั๋วออกจากมือเธออย่างแรง ทำให้เธอได้ขึ้นเครื่องเกือบเป็นคนสุดท้าย

เรื่องราวยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม เมื่อที่นั่งของเธอมีผู้โดยสารคนอื่นนั่งอยู่ แต่พอเธอถามกับพนักงานต้อนรับ พวกเขากลับบอกให้เธอไปนั่งแถวอื่นที่ห่างไกลออกไปแทน ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในผู้โดยสารต่างชาติไม่กี่คนบนเครื่อง และได้รับการบริการที่แสนจะเลวร้าย

การแสดงถึงการเลือกปฏิบัติเกิดขึ้นตลอดเวลา 4 ชั่วโมงบนเครื่อง เธอรู้สึกว่าเวลามันช่างยาวนานเหลือเกิน สร้างความเจ็บปวดถึงกับทำให้เธอหลั่งน้ำตาออกมา

“ฉันคงเป็นเหมือนอากาศธาตุที่ไม่มีใครเห็น เมื่อรถเข็นบริการอาหารผ่านมา ฉันบอกขอน้ำแก้วหนึ่ง แต่พนักงานต้อนรับกลับโยนขวดน้ำลงบนที่นั่งข้างฉัน โดยไม่พูดอะไรสักคำ หรือแม้แต่จะหันมามองหน้าฉันเลย”

และเมื่อใกล้ถึงที่หมาย ได้มีการแจกแบบฟอร์มผ่านตม. พนักงานกลับยื่นแบบฟอร์มภาษาสเปนให้เธอกรอก ทั้ง ๆ ที่เธอเห็นผู้โดยสารต่างชาติคนอื่นที่นั่งข้างหน้าได้แบบฟอร์มภาษาอังกฤษ

“การเลือกปฏิบัติกับคนเอเชียไม่ใช่มาตรการที่ไว้คัดกรองไวรัสหรอก มันเป็นแค่การเติมเชื้อเพลิงให้กับสิ่งเลวร้ายกว่านั้น นั่นก็คือ การเหยียดเชื้อชาติ” โทริกล่าว

เธอยังกล่าวปิดท้ายฝากถึงคนเอเชียว่า หากไม่มีเหตุจำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเหยียด ซึ่งเธอก็เคยได้ยินเหตุการณ์ทำนองนี้มาบ้างแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอครั้งนี้เหมือนแผลเป็นที่จะติดตัวไปชั่วชีวิต