ตามปกติแล้ว การที่เราจะทำโฆษณาสินค้าของตัวเองโดยเฉพาะอาหาร ก็ย่อมใช้ภาพโฆษณาที่แสดงถึงความสดใหม่น่ารับประทาน คงไม่มีแบรนด์ไหนที่จะหยิบเอาสินค้าเน่าเสียของตัวเองมาใช้โปรโมทเมนูอาหารของตัวเอง ยกเว้นแต่ “เบอร์เกอร์คิง” และคำถามที่ตามมาคือ ทำไม ?
“ความสวยงามของการไม่ใส่วัตถุกันเสีย”
เบอร์เกอร์คิงกล่าวในแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ของพวกเขา พร้อมทั้งแสดงภาพเบอร์เกอร์ Whoppers ที่ขึ้นราชัดแจ๋ว นี่คือความภาคภูมิใจของเบอร์เกอร์คิงที่บ่งบอกว่า พวกเขากำลังเริ่มไม่ใส่วัตถุกันเสียในเบอร์เกอร์ของพวกเขานั่นเอง
อ้างอิงจากผลวิเคราะห์ของ YouGOV ระบุว่า มีชาวอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 22 ถึง 37 ปี ราว 60% ที่กังวลเกี่ยวกับวัตถุเจือปนในอาหารและฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 5 ปีก่อนมาก
จากแนวโน้มนี้ทำให้ร้านอาหารต่างนำเสนอเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีความเป็นออร์แกนิกมากยิ่งขึ้น และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เบอร์เกอร์คิงวางแผนที่จะไม่ใส่วัตถุกันเสียในเมนูอาหารของพวกเขา โดยจะครอบคลุมทุกร้านภายในสิ้นปี 2020 นี้
“ที่ร้านเบอร์เกอร์คิง เราเชื่อว่ามีอาหารที่สดใหม่นั้นมีรสชาติที่ดีกว่าเสมอ นั่นเป็นเหตุผลที่เราไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่แต่งสีและรสชาติเทียมขึ้นในทุกเมนูอาหารที่เราเสิร์ฟในทุกประเทศทั่วโลก” เฟอร์นันโด มาชาโด หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของเบอร์เกอร์คิงกล่าว
จากวีดีโอด้านล่าง คุณจะได้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของเบอร์เกอร์ Whoppers ที่ถูกทำขึ้นมาอย่างสดใหม่ และถูกทิ้งไว้นานถึง 34 วัน ทำให้เราได้เห็นว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน
ในทางกลับกัน หากเราย้อนกลับไปเมื่อปีก่อน ก็มีข่าวเกี่ยวกับ “เบอร์เกอร์ชิ้นสุดท้าย” ที่ถูกขายในร้านแม็คโดนัลด์ร้านสุดท้ายในประเทศไอซ์แลนด์ และมันยังสามารถอยู่มาได้นานถึง 10 ปี โดยมีสภาพไม่ต่างจากตอนทำเสร็จใหม่ ๆ ซึ่งกลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์เช่นกัน
เรียกได้ว่าโฆษณาของเบอร์เกอร์คิงเหมือนเป็นการแซะทางแม็คโดนัลด์อยู่กราย ๆ ในเรื่องการใส่วัตถุกันเสีย แต่ภายใน