"อ้วน" แมวผู้ต้องหา ตายแล้ว สัตวแพทย์สับตัวเอาแมวตัวอื่นมาให้ อ้างแมวดังจะตายไม่ได้

ทางด้านเฟซบุ๊ก มะลิ กะปิ ได้มีการชี้แจงถึงเรื่องที่ เจ้าอ้วน แมวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นแมวชื่อดังในโลกออนไลน์ ที่ส่งให้เจ้าของใหม่ดูแล ซึ่งทางเจ้าของบอกว่า อ้วนป่วยเลยให้หมอมารับไปแอดมิต ผลตรวจปรากฎว่า อ้วนเป็นพยาธิเม็ดเลือด ค่าตับสูง โดยเรื่องเกิดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 และพยายามถามข่าวคราวอาการป่วยของอ้วนอย่างสม่ำเสมอ ในเดือนธันวาคม 2562 เจ้าของได้อัปเดตอาการอ้วนว่าอยู่โรงพยาบาลสัตว์

ต่อมาในเดือนมกราคม 2563 ทางเพจได้พาแมวตัวอื่นไปผ่าตัด จึงได้ขออนุญาตเจ้าของไปเยี่ยมอ้วน แต่หมอบอกว่าหมอไม่สะดวก ติดธุระ พอวางสายไปเจ้าของก็โทร มาบอกว่า อ้วนย้ายไปรักษาที่สาขาฉะเชิงเทราแล้ว ใกล้หายแล้วด้วย ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พอโทรไป หมอก็บอกว่า อ้วนรักษาอยู่ฉะเชิงเทรา ไปเพาะเชื้ออยู่กับพี่ชายหมอ และบอกว่าใกล้หายแล้ว ด้วยความสงสัยจึงถามหมอตรงๆ ว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับอ้วนหรือเปล่า ถ้ามีให้พูดกันตรงๆ ถ้าอ้วนตาย ก็จะต้องแจ้งให้ลูกเพจทราบ ทุกคนก็จะเสียใจ แต่ต้องเข้าใจว่าอ้วนไปดีแล้ว แต่ถ้าอ้วนหลุดหายไป จะได้ช่วยกันแชร์ ช่วยกันตามหาสอดส่อง หมอก็ยังยืนยันว่า อ้วนไม่เป็นอะไร ยังอยู่ปกติดี แต่หมอบอกว่า อ้วนไม่เป็นอะไร

ต่อมาหมอพาแมวมาส่งให้ทางเจ้าของเพจ และบอกว่าที่อ้วนเป็นแบบนี้เพราะแบล็คสกิน ขาและตัวจึงดำ ด้วยความดีใจไม่คิดอะไร จึงไม่ทันได้สังเกตอะไร แต่เมื่อลงรูปไปมีลูกเพจทักมาหลายคนสงสัยว่าไม่ใช่อ้วนตัวจริง เหมือนเป็นคนละตัว พอเอารูปมาเทียบดูก็พบว่าไม่ใช่จริงๆ นิสัยก็ไม่ใช่อ้วนตัวเดิม เสียงร้องเหมือนแมวเด็กต่างจากสียงอ้วนมาก ทางเพจจึงโทรหาหมอ แต่หมอก็ไม่ยอมรับเลยขู่ว่าจะแจ้งความ สุดท้ายหมอก็ยอมรับว่า อ้วนตายตั้งแต่เดือนมกราคม เจ้าของใหม่ก็ไม่รู้ และอ้างว่าที่ไม่บอกเพราะอ้วนเป็นแมวดังมีคนติดตามเยอะ จะตายไม่ได้ จึงต้องปิดเป็นความลับ และเก็บศพแช่แข็งไว้

ซึ่งหลังจากรับซากอ้วนกลับมา ทางเพจตั้งใจว่าจะนำอ้วนไปฝัง เจ้าของเก่าอ้วนที่ออกจากคุกมาแล้ว จะเดินทางมาร่วมฝังอ้วนด้วย แต่ล่าสุดจะมีการส่งซากของอ้วนไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงก่อน

ซึ่งภายหลังจากที่มีการเผยถึงเรื่องดังกล่าว แฟนคลับของเจ้าอ้วน ได้มีการเข้ามาคอมเมนต์ โดยฉะสัตวแพทย์ที่ทำการสับเปลี่ยนตัวแมว ไม่ยอมบอกความจริง พร้อมถามหาจรรยาบรรณ และมนุษยธรรมของคนเป็นหมอ นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า ยินดีร่วมด้วยช่วยกันค่าคดีความ ไม่อยากให้จบง่าย ๆ เลย หมอชั่วมาก

โดยที่ 23 ก.พ. 63 เฟซบุ๊ก มะลิ กะปิ ได้มีการชี้แจงถึงเรื่อง เจ้าอ้วน แมวผู้ต้องหา 

ซึ่งในโพสต์มีใจความโดยยาวทั้งหมดระบุว่า

"อ่านให้ครบทุกบรรทัดนะคะ
จะเรียบเรียงให้อยากละเอียดอีกครั้ง
และนี่คือความจริงทั้งหมดที่ไม่มีการเติมแต่งใดๆ

6 พ.ย.2562 ไปส่งอ้วนที่บ้านใหม่ ที่บางแค
เราไปส่งด้วยตัวเอง ทุกอย่างดีมาก
ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง วันนี้ก็ยังยืนยันว่าดีมาก

เจ้าของอ้วนอัปเดตให้ตลอด
ตั้งแต่วันแรกที่อ้วนไปอยู่ แถมยังส่งรูปตัวอื่นๆในบ้านให้ดูด้วย

อัปเดตให้ตลอด จนเรารู้สึกเกรงใจ
จึงไม่กล้าถามไถ่ รอเจ้าของสะดวกอัปเดตเท่านั้น
เพราะเชื่อใจและให้เกียรติเจ้าของ

22 พ.ย.2562 เจ้าของอัปเดตว่า อ้วนป่วย
เลยให้หมอมารับไปแอดมิท ผลตรวจปรากฎว่า อ้วนเป็นพยาธิเม็ดเลือด ค่าตับสูง
จึงให้อ้วนแอดมิทอยู่กับหมอ

29 พ.ย.2562 ลูกเพจถามข่าวอ้วนกันเข้ามาเยอะ
เราจึงถามไถ่ไปทางเข้าของ
ว่าอ้วนเป็นอย่างไรบ้างคะ

เจ้าของบอกว่า ดีขึ้น แต่ยังต้องอยู่กับหมอ

8 ธ.ค.2562 เจ้าของอัปเดตอาการอ้วนและรูป 1 รูป
อ้วนยังต้องรักษาตัวอยู่กับหมอจนกว่าจะหาคนสนิท
เพราะอยู่ รพส.มีผู้ช่วยคอยตะล่อมกินยาได้ดีกว่า

ซึ่งเราก็เห็นด้วย เพราะอ้วนบังคับยาก
อย่างน้อยอยู่กับหมอ ต้องได้กินยาครบ

เราจึงขออนุญาตเจ้าของไว้ล่วงหน้า
หากเราไป กทม. จะขออนุญาตไปเยี่ยมอ้วนที่ รพส.

เพราะถ้าอ้วนกลับบ้าน เราก็ไม่อยากไปรบกวนที่บ้าน
คือเกรงใจเจ้าของ จึงไม่อยากรบกวน

เจ้าของให้เบอร์หมอ ส. มา
และบอกว่า อ้วนอยู่ รพส.แถวหทัยราษฎร์

และหลังจากนั้น ก็ไม่ได้อัปเดตถึงอ้วนอีก
แต่แฟนคลับอ้วน ยังคงถามไถ่เข้ามาทุกวัน

และเริ่มถามมาก็ขึ้น ทั้งข้อความและคอมเม้นท์
เราเองรู้สึกกดดันมาก เพราะเป็นคนกลาง
อยากถามให้ทุกคน แต่ก็ติดที่เป็นคนขี้เกรงใจ
เลยไม่กล้าถาม

22 ม.ค.2563 เราพาแมวดำไปผ่าตัดที่ รพส.เกษตร
นั่นคือวันที่เพจโดนด่า และประกาศปิดเพจไปนั้น

ด้วยความที่เป็นห่วงอ้วน กลัวอ้วนจะไม่ไหว
และเป็นอะไรไปก่อน จึงอยากไปหาอ้วน
อยู่ดีๆก็รู้สึกอยากไปหาอ้วน

จึงคุยกับลูกเพจคนนึงว่า เราอยากไปหาอ้วน
กลัวจะไปไม่ทัน กลัวอ้วนจะไม่ไหว

23 ม.ค.2563 เราไปเยี่ยมแมวดำที่ รพส.เกษตร
จึงแจ้งขออนุญาตเจ้าของอ้วนไว้
ว่าจะขออนุญาตเข้าไปเยี่ยมอ้วน ที่ รพส.

และได้ประกาศหน้าเพจว่า วันนี้จะไปเยี่ยมอ้วน
และถ่ายรูปมาฝากทุกคน ให้หายคิดถึงกันนะคะ

แล้วจึงโทรหาหมอ ส. ตามเบอร์ที่เจ้าของให้มา
จะถามว่า รพส.ชื่ออะไร อยู่ตรงไหน
เนื่องจากเราไม่ทราบชื่อ รพส.

หมอ ส. แจ้งว่า วันนี้หมอไม่สะดวก หมอไปธุระ
แต่อีก 1 อาทิตย์ อ้วนก็ได้กลับบ้านแล้ว
อีกนิดเดียวก็หายดีแล้ว

ด้วยความที่ขี้เกรงใจ ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
เพราะเชื่อหมอ และดใจที่อ้วนจะหายดีแล้ว

จึงบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรออัปเดตจากเจ้าของ
ตอนอ้วนกลับบ้านแล้วก็ได้

หลังจากวางสายจาก หมอ ส. ประมาณ 20 นาที
เจ้าของอ้วนโทรมา

บอกว่า อ้วนย้ายไปรักษาที่สาขาฉะเชิงเทราแล้ว
แต่อีก 1 อาทิตย์ อ้วนก็ได้กลับบ้านแล้วค่ะ

เราก็ค่ะ ได้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เหมือนเดิม
และบอกเจ้าของว่า แฟนคลับแค่อยากเห็นหน้าอ้วน
แค่ได้เห็นรูปอ้วน ทุกคนก็ดีใจมากแล้วค่ะ

เจ้าของบอกว่า หมอที่พาอ้วนไปรักษา
ไม่ชอบถ่ายรูป
เราก็บอกไม่เป็นไรค่ะ รอรูปจากเจ้าของก็ได้

นับจากวันที่ 23 ม.ค.2563
เราเห็นว่า เกิน 1 อาทิตย์แล้ว
แต่ไม่มีวี่แววข่าวอ้วน ลูกเพจก็ทวงถามมากเรื่อยๆ

จะถามเจ้าของ ก็เกรงใจ กลัวเค้าอึดอัด
ไม่ถาม ก็เห็นใจลูกเพจ ที่รอฟังข่าวอ้วน

วันที่ 7 ก.พ.2563 ซึ่งเราเห็นว่า ล่วงเลยมา 16 วัน
ก็เกิน 1 อาทิตย์ที่หมอแจ้งว่าอ้วนจะกลับบ้าน
รวมเวลา ก็ 2 อาทิตย์กับอีก 2 วันแล้ว

ด้วยความเป็นห่วง จึงตัดสินใจถามเจ้าของ
ว่าอ้วนกลับบ้านหรือยังคะ

เจ้าของตอบว่า " หมอบอกอาทิตย์หน้าค่ะ "

เราก็เลยบอกว่า ถ้าอ้วนกลับมา รบกวนอัปเดต
ให้นิหน่อยนะคะ ลูกเพจถามมา
นิเริ่มไม่มีคำตอบแล้วค่ะ

เจ้าของส่งสติกเกอร์ตอบ Ok

ผ่านไปอีก 1 อาทิตย์ กับอีก 1 วัน
เราก็เอ๊ะ ยังไงน๊อ หรืออ้วนเป็นหนัก ไม่หายสักที

ลูกเพจจึงทวงถามมาอีก สรุปอ้วนจะกลับวันไหน
และเป็นไงบ้าง ไม่มีรูปถ่ายบ้างหรือ

เราก็พยายามตอบให้ดีที่สุด ไม่ให้ใครคิดมาก
แต่เราก็ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

ลูกเพจจึงขอไปเยี่ยมอ้วนเอง เราเลยให้เบอร์หมอ
ให้โทรถามชื่อ รพส. และพิกัด

ลูกเพจโทรไป หมอก็บอกว่า
อ้วนรักษาอยู่ฉะเชิงเทรา ไปเพาะเชื้อ
อยู่กับพี่ชายหมอ เป็นสัตวแพทย์เช่นกัน

แต่จะส่งอ้วนกลับวันพุธหน้า

แล้วหมอก็โทรมาหาเรา บอกว่ามีลูกเพจโทรหา
และยืนยันว่า จะส่งอ้วนกลับวันพุธหน้า

เราก็ได้ค่ะ และถามหมอว่า วันพุธชัวร์ใช่ไหม
เราจะได้ตอบลูกเพจทุกคนให้เข้าใจ

หมอก็บอกว่า ชัวร์ค่ะ วันพุธชัวร์

เราจึงบอกทุกคนที่ถามมา ว่ารออัปเดตวันพุธนะคะ

ถึงวันอังคารตอนเย็น หมอโทรมาบอกว่า
วันพุธ ไม่ได้ไปส่งอ้วนแล้วค่ะ เจ้าของไม่อยู่
เจ้าของบอกให้ไปส่งวันอาทิตย์

ตอนนั้นเราเริ่มใจไม่ดีแล้ว ด้วยความอึดอัด
กับความสงสัยที่เก็บไว้คนเดียวมาตลอด

จึงถามหมอตรงๆว่า มีอะไรเกิดขึ้นกับอ้วนไหมคะ
ถ้ามีให้พูดกันตรงๆนะคะ เราไม่ใช่คนดราม่า

เราเข้าใจอะไรง่ายๆ เข้าใจเหตุสุดวิสัย
เข้าใจอุบัติเหตุ ถ้าบอกเราตรงๆ

ถ้าอ้วนตาย ก็จะต้องแจ้งให้ลูกเพจทราบ
ทุกคนก็จะเสียใจ แต่ต้องเข้าใจว่าอ้วนไปดีแล้ว

แต่ถ้าอ้วนหลุดหายไป จะได้ช่วยกันแชร์
ช่วยกันตามหา สอดส่อง จะได้ช่วยกัน

หมอก็ยังยืนยันว่า อ้วนไม่เป็นอะไรค่ะ
ยังอยู่ปรกติดีค่ะ วันอาทิตย์ได้กลับชัวร์

และในวันนั้น เราจึงอัปเดตหน้าเพจ
พร้อมเล่ารายละเอียดว่า ที่เราไม่รู้เพราะอะไร
คืออยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราไม่รู้อะไรเลยจริงๆ

และให้รออัปเดตอ้วนกลับวันอาทิตย์พร้อมกัน

หลังจากโพสต์ไป 15 นาที
ลูกเพจก็สงสัยและตั้งคำถามไปถึงเต้าของและหมอ
เพราะอะไร ไม่มีรูปอ้วนให้ดูบ้าง

สรุปอ้วนรักษาอยู่หทัยราษฎร์หรือฉะเชิงเทรา

แล้วเจ้าของอ้วนก็โทรมาหาเรา ด้วยความไม่พอใจ
บอกว่า มันไม่ใช่แนวของพี่แล้วล่ะ ที่ต้องมาอัปเดต
และพี่ไม่ตำเป็นต้องมาโดนกดดันและโจมตีแบบนี้
พี่จะส่งอ้วนคืนไปหาบ้านใหม่ เพื่อทุกคนสบายใจ

เราจึงตอบว่า ค่ะ ได้ค่ะ
เพราะถึงตอนนั้น เราอยากได้เจออ้วนจริงๆ

ด้วยความที่ไม่ชอบเครื่องดราม่า หรือต่อว่ากัน
จึงลบโพสต์ออก

และสืบหาข้อมูลอย่างเงียบๆกับลูกเพจอีก 2 คน
ในวันที่เพจเงียบไป ไม่เคลื่อนไหวอะไร
จนลูกเพจตกใจและถามกันเข้ามามากมาย

จุดใต้ตำตอมาก ที่บังเอิญ
ได้เจอโพสต์ของหมอคนนึง
ซึ่งเป็นเพื่อนในเฟสป้าตุ่ม

หมอ ธ. เคยโพสต์ภาพอ้วนกับลายในชุดลอยกระทง
เมื่อ 11 พ.ย.2562
และตอบคอมเม้นท์ในโพสต์ว่า
" รักษาแมวบ้านนี้ ทั้งบ้าน รวมถึงอ้วน "

เราจึงได้รู้ว่า หมอคนนี้ คือหมอที่เจ้าของอ้วน
เคยเล่าให้ฟังตลอดว่า เป็นหมอประจำ
มารับส่งแมว ไปรักษาทั้งบ้าน
และใช้บริการกันมานานแล้ว จนสนิทกัน

เมื่อทราบแล้วว่าที่นี่คือ ที่อ้วนมารักษา
จึงให้ป้าตุ่มลองทักไปหาหมอคนนี้

หมอจึงโทรเฟสกลับมาหาป้าตุ่ม
ป้าตุ่มถามว่า หมอคะ อ้วนรักษาที่นี่เหรอคะ
แล้วเป็นไงบ้าง หายดีกลับบ้านได้ยัง

หมอบอกว่า อ๋อ อ้วนพี่ ต. บางแคน่ะเหรอครับ
ก็แอดมิทอยู่นี่แหล่ะ เค้ายังไม่รับกลับ
เพราะบ้านเค้ามีแมว Fip กลัวไปติดกัน

ในตอนนั้น คือเราเริ่มมีความหวังว่าอ้วนยังอยู่จริงๆ
แต่อยู่หทัยราษฎร์ ไม่ใช่ฉะเชิงเทรา

แล้วฉะเชิงเทราคืออะไร แล้วหมอ ส.ที่เราคุย คือใคร
เพราะนี่คือหมอตัวจริง และสถานที่รักษาจริง

นั่งคุยกับลูกเพจสามคน ว่านี่มันคือเรื่องอะไร
แต่ก็สบายใจ 50% แล้ว ว่าอ้วนยังมีชีวิตอยู่

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
หมอโทรกลับมาหาป้าตุ่ม
และมาบอกใหม่ว่า

อ้วนอยู่อีกบ้านนึงนะ จะพาไปส่งวันศุกร์นี้แล้ว

เราก็มานั่งลุ้นรอวันศุกร์ตามที่หมอ ธ. บอก

เพราะพวกเค้าคงรู้กันแล้ว ว่าเรารู้ความจริงแล้ว
ว่าอ้วนรักษาอยู่ที่นี่ คงไม่ยื้อต่อแล้ว

จนกระทั่งถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา
เราก็รอรับอ้วนที่โรงพัก กับลูกเพจอีก 2 คน

เจ้าของอ้วนแจ้งใบตรวจเลือดอ้วนมาล่าสุด
บอกว่าอ้วนยังค่าตับสูง ต้องรักษาต่อเนื่อง
และไม่ค่อยกินอาหาร

เราตอบว่า ได้ค่ะ เดี๋ยวนิพารักษาต่อค่ะ

ประมาณทุ่มกว่า เจ้าของส่งข่าวมาอีก
บอกว่า หมอกำลังพาอ้วนมาส่งที่บ้านก่อน
แล้วจึงจะพาไปส่งที่ สภ. ค่ำมากหน่อยนะ

เราก็บอกว่า ได้ค่ะ รอได้ค่ะ
และขอบคุณมากนะคะ ที่ดูแลอ้วนมาตลอด
และขออภัยหากทำให้ไม่สบายใจ

แล้วก็นั่งลุ้น รอลุ้นกันกับลูกเพจ
แม้ดึกแค่ไหน เราก็รอกันอย่างมีความหวัง

จนสามทุ่ม หมอ ส. พาอ้วนมาถึงโรงพัก
เราลงไปต้อนรับ และพาขึ้นมาเปิดอ้วนออกข้างบน

หมอ ส. มากับผู้ชายอีก 2 คน ไม่ทราบว่าเป็นใคร

พอเปิดอ้วนออกมา ด้วยความดีใจมากที่เจออ้วน
ก็ไม่ได้เอะใจว่า ใช่อ้วนไหม

เพราะคิดว่า ถึงขนาดนี้ เค้าคงไม่หลอกเราอีกแล้ว

หมอและผู้ชายที่มาด้วย ก็บอกรายละเอียดว่า
ที่อ้วนเป็นแบบนี้ เพราะแบล็คสกิน ขาและตัวจึงดำ

และหมอจะส่งยาตามมาให้

ซึ่งเราก็คุยกันอย่างดี ไม่มีโกรธเคือง
เพราะเราได้อ้วนกลับมาแล้ว ไม่อยากพูดถึง
เรื่องราวที่ผ่านมา เพราะเราโฟกัสแค่อ้วน

และเราได้ยกมือไหว้ขอบคุณหมอ กับทุกคนที่พาอ้วนมาส่ง และขอโทษหากทำให้ไม่สบายใจ

และส่งภาพอ้วนไปให้เจ้าของดู
และกล่าวขอบคุณเจ้าของอ้วนอีกครั้ง

เราจึงโพสต์ภาพอ้วนกับพี่ทองลงเพจ
พร้อมกับปกป้องทางเจ้าของและหมอที่รักษา ว่า

ห้ามทุกคนดราม่า ห้ามต่อว่ากัน
ถ้าห้ามไม่ฟัง จะลบและไม่โพสต์อีกเลย

นั่นคือครั้งแรกที่เรายื่นคำขาดกับลูกเพจ
คือไม่อยากให้ดราม่า ตั้งคำถามกันอีก
เพราะเราได้อ้วนกลับมาแล้ว อ้วนยังมีชีวิตอยู่

ที่ผ่านมา ก็ให้ผ่านไป
ผิดพลาดก็ให้อภัยกัน และโฟกัสที่แมวเท่านั้น

จนกระทั่งมีลูกเพจ ทักมาสองคน
ว่าดูแล้ว ไม่ใช่อ้วน เหมือนคนละตัว
โดยหาจุดสังเกตมาให้ดู

แต่เรายังยืนยัน ว่านี่คืออ้วน
เพียงแต่เป็นแบล็คสกิน ขาและตัวเลยเป็นสีดำ

ลูกเพจก็ไม่แย้งต่อ

จนตอนเช้า เราโพสต์รูปอ้วนกับพี่ทองอีกครั้ง
มีลูกเพจทักมาเยอะมาก จนน่าตกใจ

ว่าตัวนี้ไม่เหมือนอ้วนเลย คนละตัวหรือเปล่า
เราจึงเริ่มเอะใจในตอนนั้น

เอารูปมาเทียบดู ไม่ใช่จริงๆ
ส่วนอุปนิสัย ยิ่งต่างกันมาก

เพราะอ้วนตัวจริงกล้าหาญ เสียงดัง ไม่กลัวใคร
อ้วนเป็นแมวตัวเมียที่นิสัยเหมือนแมวตัวผู้

แต่ตัวนี้ที่ส่งมา ขี้กลัวมาก เอาแต่มุดอยู่ในมุมมืด
ไม่ยอมออกมา เข้าไปใกล้ก็ตัวสั่นตลอดเวลา
และเสียงร้องเหมือนแมวเด็ก ต่างจากอ้วนมาก

จึงให้สารวัตรช่วยดู สารวัตรเอาขยายเทียบดู
และยืนยันว่า คนละตัว 100%

ตอนนั้นเรายอมรับว่า ผิดหวังมาก เสียใจมาก
ทำไมถึงทำกันขนาดนี้
เราให้โอกาสพูดความจริงกี่ครั้งแล้ว

ก็ไม่เลือกที่จะพูดความจริง แต่กลับหลอกกันต่อ

จึงโทรหาหมอ ส. คนที่เอามาส่ง
ว่านี่ไม่ใช่อ้วนตัวจริงค่ะ

ถึงเวลาที่ต้องบอกความจริงแล้วนะคะ
ว่าอ้วนไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับอ้วน

หมอก็ยังยืนยัน ตัวจริงค่ะ หมอถามพี่หมอ ธ.แล้ว
ว่าใช่ตัวจริงมั้ย พี่หมอยืนยันว่าตัวจริงค่ะ

เดี๋ยวหมอให้พี่หมอ ธ. โทรไปคุยกับคุณนิดีไหมคะ

เราจึงยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง
ไม่ต้องให้ใครมาเล่นละคนแล้ว พอกันได้แล้ว
เสียเวลาคุย

เราต้องคุยกันด้วยเรื่องกฎหมายแล้วนะ

เดี๋ยวหมอให้พี่หมอ ธ. โทรไปอีก 1 ชม.นะคะ

จนเราโพสต์ลงเพจว่า ไม่ใช่อ้วน
ทุกคนก็เงียบไป ไม่มีใครติดต่อมาอธิบายอะไรเลย

จนประมาณบ่ายโมงกว่า เราออกมาจากโรงพัก
มีสายเข้า

สวัสดีครับพี่นิ ผมหมอ ธ.นะครับ
ตอนนี้ผมมาถึงโรงพักแล้วครับ
พอดีจะมาเคลียร์เรื่องเคสอ้วนอ่ะครับ

เราบอกว่า เรากำลังกลับบ้าน
และพาอ้วนตัวปลอมไปฝากเลี้ยง ที่ รพส.
ให้คุยที่ รพส.ได้เลยค่ะ

เรานั่งรอ 2 ชม.กว่า ก็ยังไม่ถึงสักที
จนสารวัตรโมโห ไม่รอแล้ว เพราะไม่ตรงเวลา

จึงชวนกลับ แล้วเค้าโทรมาอีกว่า จะรีบมาให้ทัน
สารวัตรจึงบอกว่า ไม่ต้องมาแล้ว
ให้บอกมาคุยที่โรงพักวันจันทร์ทีเดียวเลย

จนเค้ามาถึง รพส. และให้หมอที่ รพส.โทรหาเรา
เราจึงเดินไปด้วยความปวดใจ

วินาทีที่เค้าเปิดผ้าห่ออ้วน เราร้องไห้ตรงนั้นเลย
มันปวดใจมาก

เค้าบอกว่า อ้วนตายตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค.
หมอ ส. รู้ หมอ ธ. รู้ แต่เจ้าของไม่รู้

เค้าบอกว่า เจ้าของไม่รู้เลย
มีแต่หมอและ รพส.ที่รู้

เค้าอ้างว่า
ที่ไม่บอก เพราะเค้าบอกว่า อ้วนเป็นแมวดัง
มีคนติดตามเยอะ จะตายไม่ได้

จึงต้องปิดเป็นความลับ และเก็บศพแช่แข็งไว้

เราถามด้วยน้ำตาว่า พวกคุณทำอย่างงี้กันได้ไง
ไม่รู้สึกอะไรกันบ้างเลยหรือ

นอกจากปิดบัง แล้วยังโกหกมาตลอด
ไม่พอ ยังเอาตัวอื่นมาหลอก

พวกคุณยังมีจิตใจกันอยู่มั้ย

ในตอนนั้น มันบีบหัวใจมาก
ใครไม่เป็นเรา ไม่เข้าใจหรอก

เอาเป็นว่า เมื่อหมอตั้งใจมาเคลียร์
แล้วส่งอ้วนตัวจริงมาคืน แม้จะไม่มีชีวิตแล้วก็ตาม

อยากบอกตรงนี้เลยว่า เราเชื่อแค่ 10
ที่บอกว่า ปิดบังเพราะกลัวโดนดราม่า

แต่การที่ยังแก้ตัวเรื่องการโกหกที่ผ่านมา
เราไม่เชื่อ

ความจริงก็คือความจริง ควรยอมรับความจริง
ว่าที่ผ่านมา คือการโกหก เพราะพวกคุณโกหกจริงๆ

เราเห็นแก่ความเป็นมนุษย์ด้วยกัน
ที่คุณพยายามเดินทางเข้ามาเคลียร์
พร้อมศพอ้วน

เราไม่เชื่อ แต่เราให้อภัย
เราบอกเสมอว่าเรา ไม่ใช่คนโกรธแค้นใคร

และอ้วนก็ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้

แต่หวังว่า พวกคุณจะไม่ทำแบบนี้กับเคสอื่นอีก
และหวังว่าที่ผ่านมา คงไม่มีเคสแบบนี้
แมวตาย ปกปิด อำพราง

เราหวังว่าการให้อภัยของเรา
จะทำให้พวกคุณรู้สึกผิด และแสดงความรับผิดชอบ
ด้วยการขอโทษ และยอมรับผิดจากใจ

เหมือนที่เรากล้ากล่าวขอโทษพวกคุณ
ทั้งที่เราไม่ได้ทำผิด

การยอมรับผิดจากใจ เป็นสิ่งที่น่าให้อภัย

ส่วนใครที่บอกว่า เจ้าของรู้หรือไม่

อยากถามว่า แมวตายไป 1 เดือนแล้ว
ถ้าคุณเป็นเจ้าของ
และรู้ความจริงพร้อมกับเราเมื่อวาน

คุณจะรู้สึกโกรธหมอบ้างไหม

แต่กลับโกรธและไม่พอใจเรา
จนป่านนี้ก็ไม่มีการติดต่อมาพูดคุย
หรือแสดงความเสียใจต่อกันและกัน

เรายังยืนยันกับทุกคนเสมอ ว่าเจ้าของดีมาก
เค้าดูแลแมวดีทุกตัว เค้าดีมากจริงๆ

เราไม่เคยเอาเรื่องไม่ดีมารวมกับเรื่องดี

ส่วนดีก็ส่วนดี ส่วนไม่ดี ทุกคนต้องมีกันทุกคน
ไม่มีใครไม่ผิดพลาด

เอาเป็นว่า เราขอให้ทุกคนยุติเพียงเท่านี้
ไม่โกรธแค้นกัน ไม่ว่าฝ่ายไหน

และนี่คือความจริงทั้งหมดของเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เราขอพูดแค่ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

ไม่ต้องถามกันเข้ามาแล้ว
เราไม่พร้อมจะคุยกับใคร

ตัวอื่นไปอยู่สบายดี ต้องไม่เอามารวมกับเคสอ้วน
เรื่องอ้วน ก็ให้เป็นแค่เรื่องอ้วน

ส่วนตัวอื่น จากที่เราไปเจอมาเอง
ทุกตัวอยู่สบายดีค่ะ ความเป็นอยู่ดีมากด้วย

นอกจากเสียใจที่อ้วนตาย
เราก็เสียใจมากที่โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เอาเป็นว่า ให้จบกันเพียงเท่านี้

วันจันทร์ เราจะนำศพอ้วนไปฝังที่สนามหญ้า
หลังโรงพัก ที่เคยพาอ้วนเดินเล่น

และเจ้าของเก่าอ้วน ( พ่ออ้วน )
ที่ออกจากคุกมาแล้ว
จะเดินทางมาร่วมฝังอ้วนด้วยกัน

ส่วนใครอยากจะมาส่งอ้วนด้วยกัน
ก็ยินดีค่ะ
มาไม่ได้ ก็ร่วมส่งกันหน้าเพจ

อ้วนจะอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป ~

อ้วนเป็นแมวอีกตัว
ที่มีเรื่องราวมากมายให้คนจดจำ

ขอบคุณทุกคนที่รักอ้วนค่ะ ~

รูปถ่ายอ้วนที่เราถ่ายเก็บไว้ในสตอรี่
ขอนำรูปน่ารักมาให้ดูแทนรูปศพนะคะ

#อ้วนห้าพัน #แมวผู้ต้องหา #สภบางปะอิน"