จากสถานการณ์การระบาดของ COVIT-19 ทำให้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ต้องตั้งจุดตรวจคัดกรองผู้โดยสารตามสถานที่ต่างๆที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้า-ออก และสถานที่สำคัญอีกที่หนึ่งคือในสนามบินต่างๆ ซึ่งล่าสุดมีทีมแพทย์เฝ้าระวังของสถาบันสิรินธรฯ ประจำสนามบินดอนเมืองได้โพสต์เกี่ยวกับการทำงานในคืน(น่าจะ)สุดท้าย ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563
ดอนเมือง อีกครั้ง
คืนนี้ (น่าจะ) เป็นเวรสุดท้ายของสถาบันสิรินธรฯ เรากลับมาที่ดอนเมืองอย่างคุ้นเคย ยื่นบัตรผ่านกับ รปภ.ที่เดิม กดรหัสประตูห้องพักที่จำขึ้นใจ ค้นตู้กับข้าวหาเสบียงเลี้ยงตัวอย่างคล่องแคล่วแล้วออกมาเม้ามอยกับพี่ล่าม มนุษย์คร. และพยาบาลในเครื่องแบบทัพฟ้า
ณ จุดเริ่มเวรชีวิตต่างไปจากเดิมแค่นิดหน่อยตรงที่เกาหลีถูกยกระดับเป็นประเทศเสี่ยงสูงไปเรียบร้อยด้วยฝีมืออาจุมม่า 31 เราจึงต้องยกทีมไปคัดกรองหน้าเครื่องบิน ถ้าหากใครมีแนวโน้มจะมีไข้จะถูกส่งออกจากตัวอาคารทันทีเพื่อนำไปกักตัวที่อาคารอื่น
อินชอนสองไฟลท์ผ่านไปโดยไม่เจอไข้แม้แต่คนเดียว
โตเกียว
ซัปโปโร
สิงคโปร์
บาหลี
ล้วนไม่มีปัญหา
มาแจ๊กพอตแตกเอาคนไทยบ้านที่ยังไม่ได้ทันได้ไปเที่ยวไหน เดินไปเดินมาอยู่แถวสนามบินแล้วเกิดเจ็บคอ ไข้ขึ้น เปิดโอกาสให้ฉันได้ใส่ชุดหมีเป็นครั้งแรก
ณ จุดที่ลงเวร ฉันคิดถึงหมอจีนที่อู่ฮั่นจับใจ ใจเขาทำด้วยอะไรถึงใส่ชุดนี้ได้ทีละหลายๆ ชั่วโมง ถ้าถึงวันที่บ้านเราเข้าสู่เฟสสามเต็มตัว ถ้าฉันจะต้องใส่ชุดนี้ไปดูแลคนไข้ทั้งเวร สิ่งแรกที่จะฉันทำคือไปซอยผมสกินเฮดและเชื่อมั่นว่า
ภายในหนึ่งสัปดาห์ฉันจะต้องน้ำหนักลดต่ำที่สุดในชีวิตแน่นอนเพราะคงไม่กล้ากินข้าวกินน้ำเพื่อจะได้ไม่ต้องถอดชุดเข้าส้วม
ขอบคุณพยาบาลไอซีประจำตัวที่อยู่ข้างๆกัน
ขอบคุณมนุษย์คอรอทุกคนที่ทุ่มเททำงานหนักภายใต้ทรัพยากรที่จำกัดสุดๆ