จากเหตุการณ์ที่บริษัทรถยนตร์ยักษ์ใหญ่ที่อยู่คู่กับคนไทยร่วม 20 ปี อย่างจีเอ็ม มอเตอร์ ประเทศไทย ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ดังอย่าง ‘เชฟโรเลต’ ได้ประกาศปิดโรงงานในประเทศไทยประมาณปลายปี 2563 นี้ เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระขาดทุนต่อเนื่องได้อีกต่อไป และเพื่อเป็นการทิ้งทวนการทำตลาดในไทย จีเอ็มได้จัดรายการพิเศษลดล้างสต๊อกถึง 50% สร้างปรากฏการณ์คนเข้าแน่นทุกโชว์รูมและรถยนต์หมดเกลี้ยงภายในพริบตา
ต่อมา ทางเพจทนายความชื่อดัง อย่างทนายบรรจงได้ออกมาโพสต์ว่า “พรุ่งนี้ (25 ก.พ.)10.30 น. กลุ่มที่ซื้อรถเชฟฯ แคปติวา (ราคาเต็ม)หลายสิบคนรวมตัวกันร้องเรียนที่สนง.ใหญ่พหลโยธิน กระทบจากการลดราคา 50% และจะไปสคบ. กรมการค้าภายใน”
ล่าสุด กลุ่มผู้ซื้อรถเชฟโรเลต รุ่นแคปติวาที่ซื้อในราคาเต็มกว่าห้าสิบคนรวมตัวกันร้องเรียนที่สำนักงานใหญ่ บริษัทเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการขายรถล้างสต็อกลดราคา50% และการประกาศปิดกิจการ
โดย เศกสิต พรสิริสุนทร ตัวแทนกลุ่มเรียกร้องกล่าวว่า กลุ่มผู้ร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมในหลายเรื่องซึ่งด้านราคา ทางบริษัทผู้ขายไม่มีการแจ้งว่ารถทั้งสามรุ่นจะมีการลดราคามากถึง500,000 บาท ทำให้มีผลกระทบต่อค่าเสื่อมราคาในปีต่อไปที่ต้องปรับลดจากราคารถร้อยละ10 ฉะนั้นผู้ที่ซื้อราคาเต็มในรอบแรก หากต้องการขายจะได้รับผลกระทบราคาจะลดลงมาก
ประเด็นต่อมาเรื่องทุนประกันของรถก็จะถูกปรับลดลงมาตามราคาของรถที่ลดด้วย ทำให้ผูเรียกร้องต้องแบกรับภาระในส่วนต่าง และประเด็นที่สามคือเรื่องศูนย์บริการที่เมื่อประกาศปิดกิจการศูนย์เหล่านี้จะต้องปิดตามด้วยฉะนั้น หากรถมีปัญหาที่ยังอยู่ในสัญญา1แสนกิโลเมตรผู้ใช้งานจะนำรถไปศูนย์บริการที่ใด
ทั้งนี้กลุ่มผู้ออกมาเรียกร้องได้เดินทางไปยื่นจดหมายชี้แจง เอกสารยืนยันการซื้อขาย และรายชื่อที่ได้รับการรวบรวมส่งให้ทางเจ้าหน้าที่เชฟโรเลตที่สำนักงาน ซึ่งตลอดทั้งช่วงเช้าที่ผ่านมาไม่มีตัวแทนจากทางบริษัทเดินทางมาพบกลุ่มผู้เรียกร้อง ซึ่งหลังจากนี้จะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคและ กรมการค้าภายใน