11.30 น.วันที่ 25 ก.พ.63 นางอนงค์ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ได้พา ด.ญ.ษา (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี บุตรสาว นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เข้าแจ้งความร้องทุกข์หลังลูกสาวถูกครูประชั้นวัย 51 ปี ตบหน้าหลายครั้ง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
โดยน้องษา ได้เล่าให้ว่า ก่อนหน้านี้ทางครูประจำชั้นได้แจ้งกับตนมาว่าโรงเรียนจะจัดงานปัจฉิมนิเทศให้กับนักเรียน โดยในการจัดงานครั้งนี้ ทางครูจะเก็บเงินคาปัจฉิมคนละ 300 บาท ต่อมาตนเองได้นำจากผู้ปกครองจำนวนดังไปจ่ายนำให้กับครูประชำชั้นจนครบตามจำนวนที่ครูแจ้งมา กระทั่งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ครูประจำชั้นได้แจ้งว่าตนยังจ่ายเงินค่าปัจฉิมนิเทศไม่ครบขาดอีก 100 บาท ตนจึงได้ยืนยันกับครูไปว่าได้จ่ายครบหมดแล้ว แต่ทางครูกลับไม่เชื่อ ซึ่งเพื่อนในห้องก็เป็นพยานให้ว่าตนได้จ่ายไปจริง และครูยังมาบอกตนอีกว่าทำไม่เธอต้องโกหกไม่ยอมรับความจริง ก่อนที่ตนและครูจะเกิดการโต้เถียงกันไปมา กระทั่งครูได้บอกกับตนว่า เธอนี่กวนไม่เบาเลยนะ พร้อมกับกระชากคอเสื้อตนก่อนใช้ฝ่ามือตบไปที่หน้าตนไป 4 ครั้ง จนใบหน้าของตนชา ก่อนที่จะตัดสินใจนำเรื่องทั้งหมดไปเล่าให้ผู้ปกครองฟัง
หลังจากที่ผู้เป็นแม่ทราบเรื่อง จึงได้เดินทางไปที่โรงเรียน เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดจากปากครูประจำชั้นเนื่องจากมองว่าการทำโทษในลักษณะนี้เป็นการทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ แต่ทางครูได้แจ้งว่าน้องษา ก้าวร้าวจึงได้พลั้งมือไป และจะให้ครูทำอย่างไร ด้านนางอนงค์ กล่าวอีกว่า หลังจากคุยกันอยู่นาน ครูคนดังกล่าว ก็ดูท่าทียังไม่สลดและพูดจาไม่ดี ตนจึงได้ตัดสินใจพาน้องษา เข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับครูประจำชั้นคนดังกล่าว ขณะเดียวกันทางผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามสาเหตุที่เกิดขึ้นกับครูประจำชั้นคนดังกล่าว แต่กลับไมได้รับคำตอบแต่อย่างใด
สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าของคดี หลังรับแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้เป็นที่เรียบร้อย ทำหนังสือให้ผู้ปกครองพาเด็กไปตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาลสมุทรปราการ เพื่อรวบรวมหลักฐาน เตรียมเชิญตัวครูประจำชั้นมาทำการสอบปากคำและดำเนินคดีในข้อกล่าวทำร้ายร่างกาย