กสทช.สั่งปรับ 3 ช่องทีวีใหญ่ 2.5-5 แสน เหตุแพร่ภาพสดเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติงาน กราดยิงโคราช

guest profile image guest

สืบเนื่องจากที่ ทางเพจกสทช. ได้โพสต์อาลัยเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า "สำนักงาน​ กสทช.​ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ จ.นครราชสีมา และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ทำงานอย่างสุดความสามารถ #ขอส่งกำลังใจให้ชาวโคราชทุกคน"

โดยที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมา เหตุการณ์เกิดขึ้นเกิดอย่างฉุกละหุก สำนักงานฯ จึงได้ออกคำสั่งไปยังสถานีทุกช่องให้การงดการนำเสนอภาพข่าว การรายงานสด ที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการในเหตุการณ์

ซึ่งล่าสุด พล.ท. ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ก.พ. 2563) ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณาข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการออกอากาศเหตุการณ์ที่ จ. นครราชสีมา

ในรายการข่าวทางช่องรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลจำนวน 3 ช่อง ที่อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสม ได้แก่ ช่อง One (ช่อง 31) ช่องไทยรัฐทีวี (ช่อง 32) และช่องอมรินทร์ ทีวี เอชดี (ช่อง 34) โดยที่ประชุม กสทช. มีมติเห็นชอบตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของ กสทช.

ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่เห็นชอบให้มีคำสั่งปรับทางปกครองแก่บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่อง One (ช่อง 31) เป็นเงิน 250,000 บาท บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องไทยรัฐทีวี (ช่อง 32) เป็นเงิน 500,000 บาท

และบริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล ช่องอมรินทร์ ทีวี เอชดี (ช่อง 34) เป็นเงิน 500,000 บาท โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 59 (3) ประกอบมาตรา 57 (2) แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551

เนื่องจากการออกอากาศเนื้อหาเกาะติดสถานการณ์ และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา เข้าข่ายเป็นเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือมีผลกระทบต่อการให้เกิดความเสื่อมทรามทางจิตใจอย่างร้ายแรง อันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ. ฉบับเดียวกัน

เนื้อหาโดย: phattch
ความคิดเห็น

ประกาศล่าสุดในบอร์ดเดียวกัน

4 ปีที่ผ่านมา
4 ปีที่ผ่านมา