26 ก.พ. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงคือ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในประเด็นโครงการเพิ่มประสิทธิภาพตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics หรือ ตรวจลายนิ้วมือและใบหน้า โดยราคาซื้อขายทั้งหมดทำให้เงินหายไป 714 ล้านบาท
และพร้อมกันนี้ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ยังเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของบริษัทที่ชนะการประมูลกับ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยาของนายกรัฐมนตรี ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น บยส.รุ่น 15 ที่บริษัทที่ชนะการประมูลมักกล่าวอ้างถึง "มาดามหลังทำเนียบ"
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงโครงการไบโอเมตริกซ์ที่มีการดำเนินการนั้น อาจมีการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โดยชี้แจงว่าภรรยาของตนเป็นอาจารย์และเตือนตนมาโดยตลอดเรื่องการทุจริต
พร้อมย้ำว่า ระบบดังกล่าวมีความจำเป็นที่ต้องนำมาใช้เพื่อคัดกรองข้อมูลบุคคลในการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ซึ่งอย่างน้อย 23 ประเทศในทั่วโลกมีการนำระบบนี้มาใช้ ประเทศไทยเองก็มีความจำเป็นที่ต้องมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ซึ่งตนเองในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้มีการติดตามข้อมูลกระบวนการในการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวเป็นไปด้วยความโปร่งใสตามขั้นตอนและระเบียบของทางราชการผ่านคณะกรรมการหลายขั้นตอน
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า กองทัพเปิดข้อมูลปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ โดยกล่าวว่า ในโซเชียลมีเดียมีการให้ร้ายป้ายสีกันเยอะไปหมด เรื่องนี้ต้องสืบหาข้อเท็จจริง เพราะเกิดความเสียหายกับหน่วยงานภาครัฐ และตนเองได้ติดตามก็พบการกระทำแบบนี้ ด่ากันไปมาซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี ปลุกระดมให้คนทะเลาะเบาะแว้งกัน และคิดว่าตนต้องตรวจสอบด้วย ในส่วนของบางพรรคก็ทำ และทำเยอะด้วยก็ต้องตรวจสอบกันทั้งหมด ซึ่งที่พูดไม่ได้ขู่ใครทั้งสิ้นแต่ต้องปฏิบัติการตามกฎหมายหาข้อเท็จจริง