ร้อยเอกธรรมนัส เปิดคำพิพากษา ชี้แจงไม่ได้เกี่ยวข้องการขนยาเสพติด แต่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ พร้อมยืนยันมีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงกรณีนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายกล่าวหาว่ามีลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด โดยเปิดคำพิพากษาศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ลงวันที่ 31 มีนาคม 1994 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลียวันที่ 10 มีนาคม 1995 ยืนยันว่าต้องคำพิพากษาในข้อหารู้ว่ามีการกระทำความผิด แต่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่รับทราบเท่านั้น และให้การรับสารภาพในกระบวนการพิพากษา โดยไม่เข้าสู่คณะลูกขุน ซึ่งมีโทษจำคุก 2 ถึง 7 ปี แต่ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี ไม่ได้นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือผลิตยาเสพติด ซึ่งมีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต
ร้อยเอกธรรมนัส ชี้แจงว่า ได้เดินทางไปประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2536 และพบกับนายสรศาสตร์ เทียมทัด ที่ถูกดำเนินคดีด้วย แต่กระทำที่เกิดขึ้น เกิดจากการกระทำความผิดของผู้หญิงที่ชื่อป้า หรือภา และนายมาริโอ้ ที่ถูกศาลตัดสิน 2 ปีครึ่ง ส่วนอีกคนหนึ่งถูกศาลออสเตรเลียยกฟ้องและไม่มีการอุทธรณ์ โดยอ้างว่าสิ่งที่คิดว่าเป็นเฮโรอีนคือแป้ง แต่ด้วยความไม่รู้ จึงสารภาพในกระบวนการตัดสิน โดยไม่เข้าสู่คณะลูกขุน พร้อมยืนยันว่า ที่ถูกศาลพิพากษาเป็นความผิดลหุโทษ เมื่อจำคุก 8 เดือน ถูกส่งไปทำงานฝึกเด็กที่ฟาร์ม จากนั้นถูกส่งกลับมาที่ ParkLee สถานที่ซึ่งเปิดให้นักโทษทำงานข้างนอกได้ ซึ่งระหว่างรับโทษก็ไปสมัครงานในบริษัทหนึ่งนิวเซาท์เวลส์ และได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดการขายวัสดุก่อสร้าง วัสดุทำความสะอาด
ร้อยเอกธรรมนัส ย้ำด้วยว่า การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98( 10 )โดยอ้างอิงถึงบันทึกข้อหารือระหว่างสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าการต้องคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล ย่อมหมายถึงคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลไทยเท่านั้น ไม่อาจจะตีความให้รวมถึงคำสั่งหรือคำพิพากษาต่างประเทศได้ เพราะจะขัดกับหลักการใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐ
ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจร้อยเอกธรรมนัสเช่นเดียวกัน โดยชี้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความหลายคดี ทั้งถูกปลดราชการ คดีทำร้ายร่างกาย มีพฤติกรรมเป็นผู้มีอิทธิพล , ใช้วุฒิการศึกษาปริญญาเอกไม่ได้มาตรฐาน , สำแดงรายได้ต่อสรรพากรและ ป.ป.ช.ผิดปกติ โดยพบว่าเพียง 6 เดือน มีรายได้กว่า 36 ล้านบาท นอกจากนี้นางอริสรา พรหมเผ่า ภรรยาร้อยเอกธรรมนัส ยังถือหุ้นในบริษัทที่เป็นคู่สัญญาหรือสัมปทานของรัฐ กรณีเป็นคู่สัญญาเช่าพื้นที่ตลาดคลองเตยกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย และโอนให้บุคคลอื่นหลังผ่านพ้นเลือกตั้งไปแล้ว ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 184