จากสถานการณ์โควิดในประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 63 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ว่าสำหรับการรักษาผู้ป่วย วันนี้มีหายแล้ว 2 คน เป็นชายจีนอายุ 33 ปี กับ เด็กหญิงไทยอายุ 3 ขวบ
ส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 2 ราย มีเสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 35 ปี ตอนแรกเป็นไข้เลือดออก จึงส่งจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง มายังสถาบันบําราศนราดูร โดยรักษาจนไม่พบเชื้อในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ใช้เวลารักษา 1 เดือน แต่ปอดเสื่อมจากเดิมและระบบภายในล้มเหลว จึงเสียชีวิตในที่สุด
ซึ่งความจริงตรวจไม่พบเชื้อตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ดังนั้น การเสียชีวิตจะเกี่ยวกับโควิด 19 หรือไม่นั้น จะนำเข้าคณะกรรมการโรคติดต่ออีกครั้ง
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า จากประวัติของผู้เสียชีวิตพบทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวจีน ส่งมารักษายังสถาบันบําราศนราดูรวันที่ 5 กุมภาพันธ์ แต่พบป่วยตั้งแต่ 17 มกราคม และรักษายังรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง รวมนะยะเวลารักษา 1 เดือนเศษ โดยได้รับยารักษาต้านดีที่สุดจากจีน ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 10 ที่มีผู้เสียชีวิต
นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่าส่วนคนไข้ที่อาการหนักอีกคนนั้น เป็นลุงอายุ 70 กว่าปี พบก่อนหน้านี้ติดเชื้อวัณโรคและติดไวรัสโควิด 19 แต่ได้รักษาจนไม่พบเชื้อแล้ว ซึ่งยังต้องเฝ้าระวัง สรุปจนถึงตอนนี้มีผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 30 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 11 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 42 ราย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน กล่าวว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตามพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้ในวันนี้ เน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวังและการแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
กรณีพบผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งจะต้องรายงานภายใน 3 ชั่วโมง หากฝ่าฝืนจะมีความผิด โดยปรับไม่เกิน 20,000 บาท นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่เป็นข่าวการพบเชื้อไวรัสโควิด 19 ในสุนัขยังไม่มีรายงานในประเทศไทยแต่อย่างใด อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง และค้นหาข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติม ขอแนะนำให้เจ้าของ ผู้ดูแลสุนัขรักษาความสะอาดของทั้งผู้เลี้ยงและสุนัข และหมั่นล้างมือบ่อยๆหลังสัมผัสสุนัข
ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผู้ป่วยชายไทยอายุ 35 ปี ทำงานขายสินค้าและติดไวรัส covid-19 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ก.พ.2563 เวลา 18.25 น.
ผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัวใดๆทั้งสิ้น และได้รับการรักษาตามมาตรฐานที่โรงพยาบาลบำราศนราดูลโดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิกฤตหลายท่าน และได้รับเครื่องช่วยให้ออกซิเจนในเลือด ECMO แต่เนื่องจากประเทศไทยได้รับยา favipiravir ในระยะหลัง โดยผู้ป่วยมีอาการรุนแรงใส่เครื่องช่วยหายใจและถึงแม้ว่าจะทำให้เชื้อไวรัสหายไปหมดก็ตาม
แต่มีเนื้อปอดเสียหายมาก และในที่สุดผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างสงบ นี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญว่าโรคนี้สามารถแพร่ได้ ในคนที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยเท่านั้นและแม้แต่ไม่มีโรคประจำตัวก็มีอาการวิกฤตได้ นอกจากนั้นการวินิจฉัยข้างต้นผลจากห้องปฏิบัติการออกมาเป็นไข้เลือดออก
ทำให้พยาบาลที่เข้าไปดูแลในวันแรกติดเชื้อไวรัสนี้ไปด้วย และมีปอดบวมรุนแรงทั้งสองข้าง แต่ได้รับยาทันและกลับบ้านไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามมีเนื้อปอดที่เสียหายอยู่ระดับหนึ่ง