ก่อนหน้านี้นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ร้องเรียนจากผู้บริโภคแจ้งว่ามีผู้ค้าหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกักตุนสินค้า และปั่นราคาขายสูงกว่าความเป็นจริง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งกรมการค้าภายในได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วออกไปหาข้อเท็จจริงตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งในเขต กทม. และปริมณฑล โดยพฤติกรรมที่ตรวจสอบมีการขายหน้ากากสูงเกินสมควร สร้างความปั่นป่วนในราคาซื้อขาย และมีบางรายมีสินค้าแต่ปฏิเสธการขาย จึงมีการดำเนินคดีในกระทงความผิดเกี่ยวกับการสร้างความปั่นป่วนราคาขายให้สูงกว่าความเป็นจริง ในมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ล่าสุดแม้จะมีโทษออกมาก็ยังมีคนกล้าที่กักตุน และโก่งราคาอีกจำนวนมาก โดยในเว็ปฐานเศรษฐกิจ มีการรวบรวม ข้อมูลตลาดออนไลน์ ในเฟซบุ๊ก(Facebook)มีการจำหน่ายหน้ากากอนามัยในปริมาณตั้งแต่หลักร้อยชิ้นไปจนถึงอ้างว่ามีเป็นล้านชิ้นทั้งที่หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมและท้องตลาดขาดแคลนอย่างหนัก
โดยการขายหน้ากากอนามัยที่ตรวจพบนั้นเป็น “กลุ่มสาธารณะ” ในเฟซบุ๊กที่ชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มซื้อ-ขาย หน้ากากอนามัย pm2.5/N95” ซึ่งมีผู้เป็นสมาชิกในกลุ่มนี้มากกว่า 11,000 คน ซึ่งหากใครต้องการเข้ากลุ่มก็เพียงกดขอร่วมเข้ากลุ่ม จากนั้นจะมีผู้ที่ทำหน้าที่แอดมินกดรับ ซึ่งจะทำให้เห็นข้อมูลการซื้อขายหน้ากากอนามัยในกลุ่มนี้
ซึ่งราคาที่พบมีตั้งแต่ 50 ชิ้น 650-850 บาท ไปจนถึงขายแบบราคาส่งราคา 13.5 บาท มีสินค้า 2 ล้านชิ้น มีบางรายระบุว่า “หน้ากากอนามัย จะเข้าวันที่12มีนาคม. ใครสนใจ ต้องสั่งซื้อโอนเงินก่อนนะคะ. เราซื้อจริงขายจริงค่ะ. และต้องสรุปออเดอร์ส่งคุณหมอค่ะ ต้นทางยังมาแพงอยู่ค่ะ. เราอยากขายให้กับคนที่เดือดร้อนต้องใช้จริงๆ. ถ้าใครสนใจ สั่งซื้อได้ค่ะ. วันที่12มีสินค้าแน่นอนคอนเฟิร์ม”