เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 63 นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผกก.สภ.วิหารแดง พ.ต.ท.ชูเกียรติ สุขประเสริฐ สว.สส. นายประชา ธนบัตรวิโรจน์ นักวิชาการสาธารณสุข อ.วิหารแดง พ.ต.ท.สำราญ โสรีกุน สว.(สอบสวน) สภ.วิหารแดง
พร้อมกำลังฝ่ายความมั่นคง และนายพรชัย แย้มพลอย กำนัน ต.หนองสรวง เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 6 ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง จังหวัดสระบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่า ที่บ้านหลังดังกล่าวพบกลุ่มชายวัยรุ่น 6 คน กำลังแบ่งหน้าที่กันทำงาน
ส่วนหนึ่งคัดแยกชิ้นส่วนหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นของที่ใช้แล้ว บางคนทำหน้าที่ใช้เตารีด รีดหน้ากากอนามัยที่เป็นของเก่า โดยใช้ไม้ไผ่ตั้งยึดกับแท่นไม้ทะแยงเป็น 4 มุม เพื่อดึงสายคาดหน้ากากอนามัยให้ตึงเพื่อใช้เตารีด รีดหน้ากากอนามัยให้เรียบก่อนพับให้เหมือนของใหม่นำบรรจุใส่กล่อง นำส่งออกจำหน่าย
นอกจากนี้ บริเวณเพิงพักติดกับตัวบ้านพบเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ 1 เครื่อง เตารีด 2 อัน ถุงบิ๊กแบ็กหลายใบ และกล่องกระดาษขนาดใหญ่อีกหลายใบ ภายในบรรจุชิ้นส่วนหน้ากากอนามัยที่ผ่านการคัดแยกแล้ว และยังไม่ได้คัดแยกอีกเป็นจำนวนมากวางทับซ้อนกันอยู่
คาดว่า จะมีหลายหมื่นชิ้น ส่วนที่พงหญ้าห่างจากตัวบ้านเล็กน้อยยังพบ หน้ากากอนามัยที่ชำรุดที่ผ่านการคัดแยกแล้วถูกนำใส่ถุงขนาดใหญ่ถูกนำมากองทิ้งไว้เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน
จากการสอบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนางจินตนา นามวิชัย อายุ 47 ปี ขณะจนท.เข้าตรวจสอบไม่พบอยู่ในบ้าน โดยมี นายนนท์ อายุ 17 ปี ลูกชายทำหน้าที่ดูแลคุมคนงานอยู่ พร้อมให้การว่า หน้ากากอนามัยที่พบนำมาจากโรงงานอุตสาหกรรม แต่ไม่ทราบว่าที่ใด
ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนักเพราะส่วนใหญ่แม่จะเป็นผู้ดูแล สำหรับหน้ากากอนามัยที่ผ่านการรีดและพับเรียบร้อย กำลังนำบรรจุกล่องเพื่อจัดส่งไปจำหน่าย โดยว่าจ้างกลุ่มวัยรุ่นมาทำงานคัดแยกหน้ากากอนามัยดังกล่าว ให้ค่าจ้างอันละ 1 บาท แต่ละคนทำได้วันหนึ่ง 300-400 อัน
ในขณะเดียวกันนายสมศักดิ์ นายอำเภอวิหารแดง ได้ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยสอบถามนางจินตนา ทราบว่า นำมาจากโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งแต่ไม่บอกว่าที่ใด โดยแจ้งแก่นายอำเภอว่า ได้นำหน้ากากอนามัยเหล่านั้นมาคัดแยก นำเหล็ก ที่ประกอบอยู่ในหน้ากากอนามัยเพื่อนำไปหลอมละลายนำแร่เหล็กไปขายแต่ จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อ
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่าจากหลักฐานหน้าการอนามัยเป็นจำนวนมากที่พบกับพฤติกรรมในการกระทำรีไซเคิลหน้ากากอนามัยเหล่านี้ รวมถึงคำให้การของลูกชายเจ้าของบ้านขัดกัน จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนทำบันทึกตรวจยึดหน้ากากอนามัยไว้ทั้งหมด และนำบางส่วน ส่งไปพิสูจน์ประสานกับพาณิชย์ ถึงที่มาของหน้ากากอนามัยรวมถึงให้ตรวจสอบใบอนุญาติการทำการค้า รับซื้อของเก่าว่า ถูกต้องหรือไม่
และมอบให้ สำนักงานสาธารณสุข อ.วิหารแดง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.วิหารแดง ในฐานะผู้เสียหาย หากมีการนำหน้ากากอนามัยที่มีการรีไซเคิล แล้วนำกลับไปจำหน่ายให้กับประชาชนที่กำลังขาดตลาดนับเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
ด้านพ.ต.อ.ไพโรจน์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากจนท.ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแส การนำหน้ากากอนามัยมารีไซเคิล ทางโชเชี่ยล จึงจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว พบมีการกระทำดังกล่าวจริงจึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว ส่วนจะมีความผิดข้อหาใดบ้างนั้น ขอตรวจสอบหลักฐานต่างๆให้ชัดเจนก่อน