รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมหารือกับโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางการผลิตหน้ากากอนามัยให้ทั่วถึงประชาชน
นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยถึงกรณีที่โรงพยาบาลเอกชนยืนหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรหน้ากากอนามัยให้กับโรงพยาบาลเอกชนซึ่งขณะนี้ขาดแคลนหน้ากากอนามัยเข้าขั้นวิกฤติ ว่าสำหรับหน้ากากอนามัยเบื้องต้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้กำหนดแนวทางชัดเจน ว่าส่วนหน้ากากอนามัยจากการผลิตโรงงานอุตหกรรมที่ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 นั้นได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศเป็นสินค้าควบคุมและให้ดำเนินการกระจายหน้ากากอนามันไปยังพื้นที่ต่างๆให้ทั่วถึง พร้อมประสานงานกับโรงงานผลิตอยู่ที่ 10 โรงงาน ซึ่งมีกำลังการผลิตต่อเดือนละ 30 ล้านชิ้นให้เร่งรัดการผลิต ที่ผ่านได้มีการเร่งรัดการผลิตและดำเนินการเพิ่มขึ้นไป35 ล้านชิ้นต่อเดือน เป็นการทำงานภายใต้การทำงานกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข โดยบุคลากรทางการเเพทย์มีความสำคัญที่จำเป็นต้องใช้หน้ากากอยามัย โดยจากการบริหารร่วมกันหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีข้อดำเนินการร่วมกันว่า ในจำนวนร้อยละ 100 ที่ผลิตหน้ากากอนามัยนั้น กระทรวงสาธารณสุขขอรับการจัดสรรไป ร้อยละ30 เพื่อนำไปกระจายให้กับสถานพยาบาลต่างๆ ทั้งรัฐและเอกชน ส่วนร้อยละ 70 กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการบริหารจัดการกระจายลงพื้นที่ต่างๆให้ได้จำนวนมาก และรวดดเร็ว ผ่านร้านธงฟ้า ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า และร้านขายยาเพื่อจำหน่ายให่ทั่วถึงมากที่สุด นอกจากนี้รัฐบาลมีมติเห็นชอบให้ส่งเสริมการดำเนินการหน้ากากทางเลือก ที่ให้กระทรวงมหาไทยเป็นผู้ดูแล โดยให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มแม่บ้านสตรี และคนในชุมชน ได้ผลิตหน้ากากผ้า เพื่อนำมาใช้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขให้การรับรองการทำหน้ากากทางเลือกเรียบร้อยแล้วว่าสามารถนำมาใช้ได้ ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำวิธีการผลิตหน้ากากผ้าทางเลือก