จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพเหตุการณ์สุดระทึกว่า “เหตุการณ์เกิดที่คอนโดตรงซอยสุขุมวิท 48 วันนี้เรียกแกร็บไปยิมปกติ แต่วินหน้าปากซอยขับรถมาปาดรถแกร็บ ดีที่เราไม่ตกรถหรืออะไร หลังจากนั้น เบอร์ 26 ก็เริ่มตีแกร็บแล้ว มีคนมารุมอีกสามสี่คน (นี่คือคิดว่าจะมาห้ามเพื่อน เปล่าเลยมาช่วยเพื่อนรุม) เราคนเรียกแกร็บก็โดนลูกหลงที่หน้า อย่างนี้ได้หรอคะ ?”
จากนั้นไม่นานเพจดังได้มีการเผยภาพมุมสูงที่สามารถถ่ายเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ พร้อมระบุว่า “รุมแกร็บ คลิปวินหมาหมู่รุมแกร็บ ตอนแรกคนสู้กัน 1-1 นะ พอเพื่อนมากลายเป็นหมา 3 ตัวรุมกัดคน 3 รุม 1 หน้าคอนโด Life ซอยสุขุมวิท 48 เวลา 10.35 น. เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย ระหว่างวิน รถ จยย. 3 คน กับหนุ่มขับรถรับจ้าง บริเวณหน้าคอนโด Life Sukhumvit 48 ซอยสุขุมวิท 48 บาดเจ็บชาย 1 ราย อาสาร่วมด้วย 255 ช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สน.คลองตัน” ซึ่งทราบภายหลังว่าผู้ที่โดนทำร้ายร่างกายคือ นายทัศดา ฝักฝ่าย อายุ 26 ปี (คลิกเพื่อชมคลิป)
ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. ระบุว่า กรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ “วินมอไซด์ทำร้ายร่างกาย Grabbike” เกิดเหตุบริเวณซอยสุขุมวิท 48 กรุงเทพมหานคร นั้น ได้รับรายงานจาก สน.คลองตันว่า วันนี้ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามารับผู้โดยสารที่บริเวณ ซอยสุขุมวิท 48 คอนโด life แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. ต่อมาได้มีผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ 26 (วินรถจักรยานยนต์รับจ้างปากซอยสุขุมวิท 48) ขับรถเข้ามาปาดหน้าขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์และแจ้งว่าไม่ให้มารับในนี้
จากนั้นได้มีการโต้เถียงและมีการทำร้ายร่างกาย ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์และมีผู้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างอีก 2 คนที่เข้ามาร่วมทำร้ายร่างกาย โดยภายหลังเกิดเหตุผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบ ผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมนำตัวมาที่สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
รอง โฆษก ตร. กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจคู่กรณีที่ขับรถจักรยานยนต์แกร็บไบค์รับลูกค้าตัดหน้า ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์แกร็บไบค์ ไปทำการรักษาตัวและชันสูตรบาดแผลการถูกทำร้าย พร้อมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาขับรถจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ ทั้ง 3 คน ในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจฯ” ซึ่งผู้เสียหายได้ยินยอมให้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน คนละ 1,000 บาท พร้อมกับทางผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน 3,000 บาท
ทั้งนี้ การขับ Grab เป็นการนำรถส่วนบุคคลมาให้บริการลักษณะรับจ้าง ใช้รถผิดประเภทถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 23/1 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และ ในกรณีผู้ขับขี่รถ ไม่มีใบขัขี่สาธารณะ มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการกวดขันจับกุมมาโดยตลอด หากแต่การทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ จะด้วยเหตุที่ไม่พอใจ รับลูกค้าตัดหน้าหรือมาแย่งลูกค้า ของกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ย่อมเป็นความผิดทางอาญา มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ควรหลีกเลี่ยงการกระทำนั้นเสีย แล้วไปพัฒนาการให้บริการต่อประชาชน ผู้รับบริการ ในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบาย จนได้รับการยอมรับและไว้วางใจดีกว่า
ด้าน ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงคลิปวีดีโอ ที่เผยแพร่ทางสื่อโซเซียล เหตุวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะรุมทำร้ายผู้ให้บริการรับ-ส่ง ผู้โดยสารเอกชนในพื้นที่เขตคลองเตย ว่า ได้ดูคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้สำนักงานเขตคลองเตยตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงดังกล่าว พบว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะสมาชิกวินปากซอยสุขุมวิท 48 เขตคลองเตย
นอกจากนี้ การทำร้ายร่างกายผู้อื่นและการใช้ความรุนแรง เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายและไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง กรุงเทพมหานคร ในฐานะที่กำกับดูแลวินรถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ จะเสนอให้ใช้มาตรการยึดเสื้อวินต่อผู้ก่อเหตุ เนื่องจากเป็นการกระทำความผิดที่เข้าข่ายความประพฤติไม่เหมาะสมตามข้อ 13 แห่งประกาศคณะกรรมการประจำกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดสถานที่ตั้งวินและหลักเกณฑ์การออกหนังสือรับรองการใช้รถจักรยานยนต์สาธารณะในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2563
โดยในวันพรุ่งนี้ (3 มี.ค.63) เวลา 09.00 น. กทม. จะเชิญคณะอนุกรรมการ 4 ฝ่ายประจำพื้นที่เขตคลองเตย ร่วมประชุม ณ ฝ่ายเทศกิจ ชั้น 3 สำนักงานเขตคลองเตย เพื่อดำเนินการสอบสวนและพิจารณาการลงโทษผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย ตามมาตรการยึดเสื้อวินต่อไป ทั้งนี้ กทม.เข้าใจดีถึงปัญหาระหว่างผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างสาธารณะ กับผู้ให้บริการรับผู้โดยสารเอกชน ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกกำลังหาทางออกร่วมกันสำหรับทุกฝ่าย
ก่อนหน้านั้นพนักงานสอบสวนได้เรียกวินจักรยานยนต์ทั้ง 3 คน มาสอบปากคำที่ห้องสอบสวน โดยระหว่างที่กลุ่มวินจักรยานยนต์ เดินทางมาถึง กลุ่มเพื่อนแกร็บไบค์ มีการด่าทอให้ของลับกันเล็กน้อย ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินเข้าไปพบตำรวจสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายชวลิต หรือเก่ง แสงสุวรรณ อายุ 44 ปี, นายดอกรัก หรือรัก คำนึง อายุ 37 ปี และ นายธนากร หรือนอง คำนึง อายุ 59 ปี ทั้งหมดเป็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ปากซอยสุขุมวิท 48
เมื่อสอบสวนแล้วเสร็จกลุ่มวินจักรยานยนต์ ได้หลบออกไปทางข้างหลังของ สน. โดยกลุ่มมอเตอร์ไซค์ ที่มาให้กำลังใจหนุ่มแกร็บไบค์เอง เมื่อรู้ว่าคู่กรณีหลบหนีหน้า ถึงแสดงออกความไม่พอใจ แต่สุดท้ายวินจักรยานยนต์ ก็ยังขึ้นแท็กซี่ไปได้ก่อนจะเกิดเหตุวุ่นวายซ้ำอีกระลอก