จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้ประชาชนทั่วโลกและประเทศไทยต่างหาซื้อหน้ากากอนามัย จึงมีผู้คนจำนวนมากกักตุนหน้ากากอนามัยและร้านค้าหลายๆแห่งกลับขึ้นราคาหน้ากากอนามัยเพิ่มอีกหลายเท่าตัว ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็ต้องยอมซื้อเพราะหน้ากากอนามัยจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
จึงเกิดปัญหาในการขาดแคลนผ้าอนามัยเป็นจำนวนมาก ในขณะที่โรงงานในประเทศมีกำลังการผลิตที่จำกัด 1,350,000 ชิ้นต่อวัน ประกอบกับปัญหาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเริ่มขาดแคลนและหายาก กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในได้รับมอบหมายให้จัดระเบียบให้โรงงานผลิตกระจายหน้ากากโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ จัดสรรให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข รวมวันละ 600,000 ชิ้น โดยให้บุคลากรทางการแพทย์ 350,000 ชิ้น ผ่านโรงพยาบาลโดยตรง 150,000 ชิ้น ผ่านองค์การเภสัชกรรม 200,000 ชิ้น และส่งมาที่กรมการค้าภายใน 250,000 ชิ้น
โดยจุดวางจำหน่ายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศได้แก่ สมาคมร้านขายยา
การบินไทย
ร้านธงฟ้า
เซเว่นอีเลฟเว่น
แฟมิลี่มาร์ท
บิ๊กซี
เทสโก้โลตัส
และขายให้ประชาชนคนละไม่เกิน 1 แพ็ค แพ็คละ 4 ชิ้น ราคาชิ้นละ 2.50 บาท รวมจำหน่ายแพ็คละ 10 บาท
ในส่วนที่เหลืออีก 750,000 ชิ้น ต่อวัน โรงงานอุตสาหกรรมดำเนินการบริหารจัดการตามการค้าปกติ นอกจากนี้ ในเรื่องของวัตถุดิบ กระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์จัดหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ยังได้สั่งการให้จัดรถคาราวานออกจำหน่ายหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ รวม 111 คัน โดยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 21 คัน และในต่างจังหวัด 90 คันในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งจะหมุนเวียนออกจำหน่ายให้ทั่วถึงแต่ละชุมชน โดยจะจำหน่ายให้ประชาชนคนละไม่เกิน 1 แพ็ค แพ็คละ 4 ชิ้น ราคาชิ้นละ 2.50 บาท รวมจำหน่ายแพ็คละ 10 บาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในกลางสัปดาห์นี้