ยายคนจริง ฮึดสู้โจร โดดชกไม่ยั้ง กระชากจนไอ้โม่งหลุด

3 มีนาคม ที่ผ่านมา รตอ สุธรรม ดีราชรัมย์ รองสารวัตร สอบสวน สภ เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายสวมหมวกไหมปิดบังใบหน้า เข้าไปฉกกระเป๋าเงินร้านขายของชำของ 2 ตายาย ในหมู่บ้านตะโก ตำบลอิสานเขต อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ได้เงินไปหลายพันบาท จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเลขที่ 74 หมู่ 12 บ้านตะโกพัฒนา ตำบลอิสานเขต ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ โดยมี นายสำเรียง ประสงค์ทรัพย์ อายุ 78 ปี สมาชิกสภาเทศบาลอีสานเขต 7 สมัย และนางเสวียน ประสงค์ทรัพย์ อายุ 73 ปี เป็นเจ้าของร้านขายของชำดังกล่าว

จากการสอบถามยายเสวียน ผู้เป็นภรรยา เล่าให้ฟังว่า ช่วงสายมีลูกค้า ซึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ถึง 35 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 150 ถึง 160 เซนติเมตร สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำตาลอ่อน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ แดง มาจอดที่หน้าร้านโดยไม่ดับเครื่อง

จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็ทำทีเข้ามาเดินเลือกซื้อของในร้าน แล้วพูดหลอกหล่อบอกว่า ตัวเองทำงานที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง พร้อมถามยายว่าสนใจจะเล่นหวยหุ้นหรือไม่ แต่ยายปฏิเสธบอกว่าเล่นไม่เป็น เวลานั้นตนกำลังเอาเงินในกระเป๋าที่มีอยู่กว่า 10000 บาท ออกมานับ จึงเอาเงินใส่กระเป๋าคืนเพื่อจะไปขายของให้กับลูกค้าก่อน

จากนั้นหญิงคนดังกล่าวก็ไปเดินเลือกของในร้านอีก พอยายเผลอก็แอบเข้าไปฉกกระเป๋าเงินที่เก็บไว้บริเวณด้านหลังร้าน ยายเข้าไปเห็นพอดี จึงตัดสินใจกระโดดเข้ากระชากหมวกไหมพรมที่คนร้ายสวมใส่ แล้วใช้มือซ้ายดึงกระเป๋าแย่ง แล้วใช้มือขวาชกต่อยใบหน้าคนร้ายแบบไม่ยั้ง เพื่อไม่ให้เอากระเป๋าเงินไป จนสามารถกระชากหมวกไหมที่คนร้ายสวมใส่ปิดบังใบหน้าออกได้ คนร้ายตกใจเพราะยายเห็นหน้า จึงรีบแย่งกระเป๋าวิ่งออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องไว้หน้าร้านขับหลบหนีไป ได้เงินไป 3000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บสะสมไว้จากการขายของ

คุณยายเสวียน ยังเล่าว่า ช่วงที่สู้กับคนร้ายก็ตะโกนเรียกให้ตาซึ่งก็อยู่ในบ้านช่วย และโทรแจ้งตำรวจ แต่คุณตากลับนั่งมองเหมือนเฉย เหมือนกับคนโดนสะกดจิต แต่ยังเคราะห์ดีที่คนร้ายไม่มีอาวุธยายจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่เมื่อสอบถามคุณตาว่า ทำไมถึงไม่เข้าไปช่วยยาย คุณตาก็บอกว่าไม่รู้ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่า ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น ทั้ง ๆ ที่ได้ยินเสียงและเห็นยายสู้กับคนร้ายอยู่

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ เฉลิมพระเกียรติ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมนำหมวกไหมพรมที่คุณยายกระชากจากศีรษะคนร้ายจนหลุด ไปตรวจสอบหาร้านที่คนร้ายไปซื้อ เพราะยังอยู่ในสภาพใหม่ รวมถึงจะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เนื่องจากร้านที่เกิดเหตุไม่ได้ติดกล้อง เพื่อจะได้เร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน