กรรมาธิการ ปปช. สภาผู้แทนราษฎร เรียกผู้แทนจาก บก.ปทส. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หารือกรณีทำคดีรุกป่าเอื้อ "ปารีณา"

กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เรียกผู้แทนจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หารือกรณีทำคดีรุกป่าเอื้อ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ

การประชุมกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็นประธานในวันนี้ (4 มี.ค.63) ที่ประชุมได้เชิญกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. , ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เข้าชี้แจง หลังถูกนายวีระ สมความคิด กล่าวหาถึงการดำเนินคดีบุกรุกที่ดินของกรมป่าไม้ ที่พบว่าสำนวนคดีบางส่วนของนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ หายไป หลังจากที่ได้ติดตามเรื่องนี้จากพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสวนผึ้ง กลับไม่ทราบว่ามีสำนวนดังกล่าว และพบว่ามีการสั่งการให้นำสำนวนคดีของนายทวี จำนวน 1,039 ไร่ เข้าส่วนกลาง ขณะที่ตัวแทนจาก บก.ปทส. ได้ออกเอกสารสำนวนที่มีการกล่าวหาว่าหายไปมาเปิดเผย ยืนยันว่า สำนวนดังกล่าวได้มีการโอนคดีมาให้ บก.ปทส. ดำเนินการ จึงไม่ได้หายไปตามที่กล่างหา ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่งส่งมาให้

ด้านนางสาวปารีณา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า อยู่ระหว่างเตรียมออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ไม่ทราบว่ากล่าวหาอย่างไร ซึ่งส่วนนี้เป็นการรับทราบข้อกล่าวหากรณีที่ดิน 665 ไร่ ที่กรมป่าไม้เพิ่งแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมหลังคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำวินิจฉัย ให้ทั้งกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.สามารถดำเนินคดีได้ ยืนยันว่าไม่รู้สึกกังวล และพร้อมชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา แม้อยู่ระหว่างปิดสมัยการประชุม ซึ่งไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองย้ำว่า คดีนี้ไม่มีใครช่วยเหลือ แม้แต่คำวินิจฉัยของกฤษฎีกาก็เป็นผลลบกับตนเอง และไม่ได้ล่าช้า เมื่อเทียบกับคดีของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจที่มีมากกว่า 3,000 ไร่ แต่ยังไม่ถูกดำเนินการใดๆ ทั้งที่ครอบครองที่ดินลักษณะเดียวกัน ซึ่งได้ร้องเรียนเรื่องมาก่อนที่จะเกิดเรื่องของตนเอง